สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ยืนยันว่า รัฐบาลอิสราเอลมีความพร้อมและยินดีเจรจากับกลุ่มฮามาส เพื่อให้บรรลุการหยุดยิงระยะต่อไป


อย่างไรก็ตาม ผู้นำอิสราเอลยืนยันว่า หากบรรดาผู้นำกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาต้องการออกจากพื้นที่ “ต้องวางอาวุธก่อนเท่านั้น” และเน้นย้ำ มาตรการกดดันสูงสุดทางทหารที่อิสราเอลใช้กับกลุ่มฮามาส “ได้ผล”


ท่าทีดังกล่าวของผู้นำอิสราเอลเกิดขึ้น หลังฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาสออกมาแสดงท่าทีล่าสุด เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่ากลุ่มฮามาสตอบรับข้อเสนอหยุดยิงรอบต่อไป ตามแนวทางของกาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ


ทั้งนี้ ผู้นำอิสราเอลสั่งการโดยตรง ให้ทหารเดินหน้าปฏิบัติการยึดครองดินแดนในฉนวนกาซา โดยเตือนว่า ยิ่งกลุ่มฮามาสปฏิเสธปล่อยตัวประกันออกไปนานเท่าไหร่ กองทัพอิสราเอลจะยึดพื้นที่ในฉนวนกาซามากขึ้นเท่านั้น และอิสราเอลจะเป็นผู้ยึดครองดินแดนทั้งหมด

ขณะเดียวกัน อิสราเอลจะขยายเขตกันชนรอบฉนวนกาซาออกไปอีก เพื่อปกป้องพลเมืองอิสราเอล ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้กับฉนวนกาซา

อนึ่ง อิสราเอลกลับมาปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา หรือนานกว่าสามสัปดาห์ หลังข้อตกลงสงบศึกระยะที่หนึ่ง ซึ่งมีผล 42 วัน สิ้นสุดเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา การโจมตีดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 800 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุด และนองเลือดมากที่สุดครั้งหนึ่งของอิสราเอล นับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566.

เครดิตภาพ : AFP