เมื่อวันนี้ 31 มี.ค.ที่บริเวณชั้น 5 อาคาร 2 เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดรับสมัครนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลนครนนทบุรี ซึ่งนายกและสมาชิกชุดเดิมได้หมดวาระลง เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 68 ที่ผ่านมา โดยมีมีการแบ่งเป็น 4 เขตเลือกตั้ง ในช่วงเช้าได้มีผู้สมัคร แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ 1.ดร.ธีรวงศ์ สรรค์พิพัฒน์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี โดยมีผู้สมัครสมาชิกเทศบาลนครนนทบุรี ครบทั้ง 4 เขต สังกัดของพรรคประชาชน 2.นายสมนึก ธนเดชากุล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี โดยมีผู้สมัครสมาชิกเทศบาลนครนนทบุรี ครบทั้ง 4 เขต 3.นายนิยม ประสงค์ชัยกุล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี
ซึ่งการจับฉลากหมายเลขผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ทั้ง 3 ราย ได้หมายเลข ดังนี้ ดร.ธีรวงศ์ สรรค์พิพัฒน์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ได้เบอร์ 1 นายสมนึก ธนเดชากุล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ได้เบอร์ 2 นายนิยม ประสงค์ชัยกุล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ได้เบอร์ 3 ท่ามกลางกองเชียร์ ทั้ง 3 กลุ่ม ต่างแสดงความยินดีกับ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ที่ต่างมารอให้กำลังใจ และรอที่จะมอบดอกไม้ให้กับผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี และสมาชิกสภาเทศบาลนครนนทบุรี
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามและพูดคุยถึงนโยบายที่จะออกหาเสียงกับประชาชน โดย ดร.ธีรวงศ์ สรรค์พิพัฒน์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ได้เบอร์ 1 บอกว่า นโยบายหลักในการพัฒนานครนนท์ให้มีศักยภาพ และยกระดับเป็นนครแห่งอนาคต และเทคโนโลยีที่มีสภาพแวดล้อมส่งผลการเติบโต พัฒนา และการใช้ชีวิตของประชาชน ผมเชื่อเราทำได้ “หนึ่งเสียงของประชาชนเปลี่ยนแปลงนครนนท์ได้” นโยบายขยะแพงกว่าทอง เปลี่ยนวิธีบริหารจัดการขยะ ให้เอกชนรับเหมาบริการจัดเก็บขยะ ทั้งเขตเทศบาลนครนนท์ จัดทำแอพพลิเคชั่นบริหารจัดการขยะที่ควบคุมโดยเทศบาล ประชาชนสามารถตรวจสอบแผนการเก็บขยะและรอบการจัดเก็บได้ตลอด 24 ชั่วโมง ควบคุมติดตามการจัดเก็บขยะของรถขยะให้ตรงแผนการจัดเก็บขยะ ควบคุมการกำจัดขยะในสถานที่ที่ได้รับอนุญาติตามกฎหมาย

เปลี่ยนขยะเป็นเงิน ส่งเสริมการคัดแยกขยะด้วยการสร้างศูนย์รีไซเคิลและธนาคารรับซื้อขยะนครนนท์ ลดค่ากำจัดขยะ ได้ประมาณ 12 ล้านบาคทต่อปี ทำให้เกิดรายได้จากการคัดแยก แปรรูปและขายขยะรีไซเคิลซึ่งมีจำนวนประมาณ 30% ของขยะทั้งหมด เปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน สร้างศูนย์แปรรูปเชื้อเพลิงขยะมูลฝอย (Refuse Derived Fuel: RDF) เปลี่ยนค่ากำจัดขยะเป็นรายได้จากการจำหน่ายพลังงานเชื้อเพลิงขยะ เปลี่ยนวิธีคิด ปรับวิธีการ ลดปริมาณขยะ สื่อสารองค์ความรู้ในการจัดการขยะ โดยการบรรจุหลักสูตรการคัดแยกขยะไว้ในการเรียนของโรงเรียนสังกัดเทศบาล
บ้านเพื่อนพเนจร (บ้านสุนัขและแมวจร) สร้างศูนย์พักพิงใ7ห้สุนัขและแมวจร 500 ตัว ในปีแรก โดยผู้สนใจที่มีความพร้อมสามารถขอสุนัข หรือสัตว์ในศูนย์ไปเลี้ยงได้ โดยเปิดโอกาสให้มีการอุปการะสุนัขทั้งหมด หรือรายตัวได้ เช่น มีผู้ประสงค์ดูแลค่ารักษา เคสอุบัติเหตุ เคสป่วย ค่าขนมพิเศษ ของเล่น ผ่านช่องทางแอพลิเคชั่นของทางศูนย์ ออกเทศบัญญัติควมคุมให้มีการลงทะเบียนในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง สร้างระบบป้องกันน้ำท่วมขนาดใหญ่เพื่อใช้ระบายแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากระบายน้ำฉับไวสร้างระบบระบายและบำบัดน้ำ รองรับการระบายน้ำทั้งปริมาณฝนตกและน้ำเหนือไหลลงมา ให้ครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่

ถนนศิวิไลซ์ เปลี่ยนทางเท้าเพื่อทุกคน (Universal Design) ปรับปรุงทางเท้าที่ชำรุด และเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้พิการและคนทั่วไปสามารถใช้ชีวิตสัญจรเดินได้สะดวก ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง ด้านการศึกษา พัฒนาเพิ่มศูนย์เด็กเล็ก ที่มีอยู่แล้วทั้ง12แห่งให้ครบวงจร ส่งเสริมสื่อการเรียนการสอนให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพเพิ่มจำนวนผู้ดูแลเด็กให้ทั่วถึง พัฒนาระบบ E-Learning สร้างระบบการเรียนออนไลน์ให้นักเรียนและประชาชนสามารถเรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง จัดทำแอพลิเคชั่น หนังสือเรียนออนไลน์ลดค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง
ติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ครอบคลุมทั่วพื้นที่นครนนท์ (Super City – Free Wifi) เพิ่มความปลอดภัยให้กับทุกชุมชน จุดเสี่ยง ป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่นครนนท์ จัดทำซูเปอร์แอพพลิเคชั่นเพื่อสร้าง”โลกเสมือนของสังคม” Social Digital Twin (SDT) สำหรับเทศคบาลนครนนท์ สร้างโรงพยาบาลนครนนท์ขนาดใหญ่เพื่อให้ชาวนครนนท์ได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และใช้สิทธิ์การเป็นพลเมืองในการรับยารักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน ฯลฯได้ สร้างศูนย์ผลิตยารักษาโรคมะเร็งเอง และโรคอื่นๆ รวมทั้งเป็นคลังยาในการส่งยาถึงบ้านด้วยระบบ Telehealth Telemedicine และ E-hospital เพื่อให้ประชาชนทุกคนเข้คาถึงได้ ลดค่าใช้จ่าย, ลดเวลาการเดินทางและขั้นตอนที่ยุ่งยาก ปรึกษาแพทย์ผ่านระบบออนไลน์และรับและจ่ายยาถึงบ้านคของผู้ป่วย นัดพบแพทย์ นัดผ่าตัด ขอให้ดร.ปราบ “เปลี่ยน” นครนนท์ “หนึ่งเสียงของประชาชนเปลี่ยนแปลงนครนนท์ได้ ” ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้จะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568