เมื่อวันที่ 2 เม.ย.68 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนานพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระได้ให้สส.หารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยนายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี เขต 10 พรรคกล้าธรรม(กธ.) หารือว่า ก่อนอื่นตนต้องขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องคนไทยและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน รวมไปถึงภาคเอกชนต่อเหตุการณ์ตึกถล่มเนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมา ในวันนี้ตนขอพูดถึงปัญหาความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาชน อ.สัตหีบ ที่ตนต้องพูดเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ปัญหาแรก คือ ปัญหาไฟส่องสว่างบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 332 สายสัตหีบ-สำนักท้อน ถนนสายนี้ไฟส่องสว่างดับปีละ 2-3 ครั้ง และ ครั้งละ 2-3 เดือน และขณะนี้ 2-3 เดือนแล้ว ที่ถนนสายนี้ไฟส่องสว่างยังไม่ติดเลย ซึ่งแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิต และ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนับ 10 ราย
“ผมขอให้ รมว.คมนาคม เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และ ที่สำคัญ สาเหตุที่ไฟส่องสว่างติด ๆ ดับ ๆ มากว่า 5 ปี เกิดจากการโจรกรรม ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยปกครองท้องถิ่นของภาครัฐ ต้องช่วยป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก” นายสะถิระ กล่าว
นายสะถิระ กล่าวต่อว่า อีกปัญหาหนึ่งคือ ปัญหาท่อน้ำประปาแตก น้ำไม่ไหลของบริษัท อีสวอเตอร์ ใน อ.สัตหีบ สถิติสูงสุดคือ เดือน ก.พ. 2568 น้ำไม่ไหลจำนวน 7 ครั้ง นี่คือสิ่งที่ อ.สัตหีบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ประชาชน อ.สัตหีบ รับไม่ได้ ตนขอฝากไปยังบริษัท อีสวอเตอร์ ว่า กิจการไฟฟ้าของกองทัพเรือพร้อมที่จะถ่ายโอนให้กับภูมิภาคแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ บริษัท อีสวอเตอร์ คือบริษัทเอกชน ท่านมาทำธุรกิจใน อ.สัตหีบ แต่ท่านไม่พัฒนาเลย ตนคิดว่าบริษัท อีสวอเตอร์ ก็ควรที่จะต้องคืนให้กับภูมิภาค.