เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 68 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบอาคารรัฐสภา หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ว่า ทางสภาได้มีการตรวจสอบหลายชั้น และได้ให้ฝ่ายอาคารตรวจสอบเป็นการภายใน ไม่พบอะไรที่น่ากังวล รอยที่เห็นก็ไม่ได้เกี่ยวกับโครงสร้าง แต่สภาก็ได้มีการออกคำสั่งเชิญผู้ออกแบบอาคารนี้ และสมาคมวิศวกร รวมถึงผู้เชี่ยวชาญมาร่วมกันตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกอย่างรอบด้าน แต่เพื่อความละเอียดรอบคอบ ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้ง กรอบเวลา 1 เดือน

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า  ทั้งนี้ หลังการตรวจสอบก็ต้องมีการซักซ้อม เพื่อไม่ให้ประมาท เพราะหากเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นมา ทุกคนไม่รู้สัญญาณ จะออกทางบันไดหนีไฟหรือออกทางไหน ด้วยความรีบร้อน อาจเกิดอันตรายของการที่ไม่ได้เตรียมพร้อม ซึ่งภายในสัปดาห์หน้าจะมีการซักซ้อม เพื่อไม่ให้เกิดความประมาท ซึ่งนายการุญ จันทรางศุ ในฐานะวิศวกรโครงสร้างของบริษัทผู้ออกแบบอาคาร ได้ยืนยันว่าอาคารแห่งนี้มีการออกแบบไว้สำหรับแผ่นดินไหวแล้ว หากความรุนแรงไม่เกิน 6 แมกนิจูด สภาพโครงสร้างต่างๆ ทั้งบนดินและใต้ดิน เสาเข็มที่เจาะเข้าไปลึก 50 เมตรและโครงสร้างไม่ใช่เหล็กข้ออ้อย แต่ใช้เหล็กแผ่นที่เป็นโครงสร้างพิเศษ ที่ผู้ออกแบบได้ออกแบบด้วยความมั่นคง ป้องกันแผ่นดินไหวเป็นส่วนหนึ่ง เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหาเรื่องโครงสร้าง และแน่นอนว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดที่เมียนมา ความรุนแรงตั้ง 7-8 ก็มีผลกระทบบ้าง เช่น มีรอยร้าวจากปูนที่ฉาบ

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า โดยรวมได้มีการตรวจ 2 รอบแล้ว แต่เพื่อความรอบคอบ จะตรวจแบบเอกซเรย์อีก 1 รอบ โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน พร้อมยืนยันว่าไม่มีปัญหา ทั้งเรื่องแบบและโครงสร้าง ซึ่งผู้ออกแบบก็ยังมีชีวิตอยู่ โดยตนก็ได้ออกหนังสือเวียนให้ผู้ใช้งานในอาคาร เพื่อให้มีความมั่นใจว่าจะปลอดภัย ส่วนอุปกรณ์ หมวกนิรภัย เสื้อสะท้อนแสง และนกหวีดที่ฝั่ง สว.ได้เตรียมความพร้อม ทางฝั่ง สส. ยังไม่ได้พิจารณาถึงขนาดนั้น เพราะเมื่อเราตรวจโครงสร้าง เรามั่นใจ  ร้อยละ 99 ว่าป้องกันแผ่นดินไหว เพราะตึกเราออกแบบมาเฉพาะ ต้นทุนสูงมาก เพราะฉะนั้นราคาของตึกนี้จะแพงกว่าตึกทั่วไป ต้องขอบคุณผู้ออกแบบ ถ้าไม่เกิดแผ่นดินไหว ก็ไม่มีการตรวจสอบละเอียดขนาดนี้.