เมื่อเวลา 14.30 น .วันที่ 4 เม.ย. ที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ น.ส.หรินิ อมรสูริยะ (H.E. Dr. Harini Amarasuriya) นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ซึ่งได้เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในห้วงการประชุมผู้นำบิมสเทค ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยการพบปะครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 70 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและศรีลังกา

โดยนายกฯ ศรีลังกา กล่าวแสดงความขอบคุณรัฐบาลสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และชื่นชมความสำเร็จของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในการเป็นเจ้าภาพการประชุมบิมสเทค ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร  ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและศรีลังกา ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม โดยมีพระพุทธศาสนาเป็นรากฐานสำคัญของสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีศรีลังกายังได้หารือกับสภาหอการค้าไทย-ศรีลังกา และขอบคุณรัฐบาลไทยที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจระหว่างสองประเทศ พร้อมระบุว่าภาคเอกชนศรีลังกาจะเข้าร่วมงาน The 72nd Bangkok Gems ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการขยายความร่วมมือด้านอัญมณีและเครื่องประดับ  โดยนายกฯ ให้คำมั่นว่าจะผลักดันความร่วมมือในอุตสาหกรรมนี้ต่อไป เนื่องจากศรีลังกามีแหล่งวัตถุดิบอัญมณีที่สวยงาม ขณะที่ไทยมีทักษะการเจียระไนและออกแบบเครื่องประดับที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก

นายกฯ กล่าวต่อว่า ด้านอุตสาหกรรมประมง ไทยเสนอให้มีความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมประมงและเรือประมงให้มีมาตรฐานและความยั่งยืนมากขึ้น  ซึ่งนายกรัฐมนตรีศรีลังกาเห็นพ้องกับข้อเสนอดังกล่าว และแสดงความสนใจที่จะขยายความร่วมมือในด้านนี้ต่อไป สำหรับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวศรีลังกาเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 103 

ด้านนายกรัฐมนตรีศรีลังกา กล่าวแสดงความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวไทย และสนับสนุนแนวคิดการจัดแพ็กเกจท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างไทย ศรีลังกา และประเทศสมาชิกบิมสเทค โดยศรีลังกาตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ถึง 3 ล้านคน ในปีนี้

ในช่วงท้ายของการหารือ นายกรัฐมนตรีศรีลังกากล่าวชื่นชมการเป็นประธานบิมสเทคของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จของการประชุมครั้งนี้ และแสดงความเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างไทย ศรีลังกา และประเทศสมาชิกบิมสเทคจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความร่วมมือที่ยั่งยืนในภูมิภาคต่อไป.