เมื่อวันที่ 6 เม.ย.68 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองบางพรรค และนักเคลื่อนไหวการเมืองบางกลุ่ม ออกมาโจมตี คัดค้านแนวคิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ว่าเท่าที่ติดตามข่าวนักการเมือง นักเคลื่อนไหวที่ออกมาคัดค้านล้วนเป็นกลุ่มคนหน้าเดิม บางกลุ่มเคยมีส่วนร่วมในการสนับสนุนม็อบ เคลื่อนไหวโจมตีมาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน มีความคิดต่อต้านรัฐบาลเพื่อไทย ขณะที่รัฐสภา กำลังจะมีการพิจารณากฎหมายการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ วาระแรก วันที่ 9เม.ย.นี้ เชื่อว่าจะได้รับเสียงส่วนใหญ่จากรัฐสภา สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้แน่นอน

นอกจากนี้ตนขอเตือนความจำหลายพรรคการเมือง ตอนรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งปี 66 พรรคก้าวไกลในขณะนั้น ปัจจุบันคือพรรคประชาชน และพรรคไทยสร้างไทย ต่างเห็นด้วยให้นำสิ่งผิดกฎหมายใต้ดินขึ้นบนดิน เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติ แต่พอเป็นฝ่ายค้านกลับความจำสั้นออกค้าน ลืมคำพูดตัวเอง ที่ใช้รณรงค์หาเสียง ทำตัวเป็นคนขวางโลกขวางความเจริญ

ขณะเดียวกัน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐควรจะทำหน้าที่สส.ในสภาฯให้ดี ให้เกียรติ ให้ความสำคัญกับการประชุมสภาฯ อย่าขาดหายบ่อย ควรตักเตือนส.ส. ที่ยังเหลืออยู่ ให้ทำหน้าที่ในสภาฯ เป็นตัวแทนประชาชน ในการแสดง ความคิดเห็นต่าง ด้วยเหตุผล เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ ดีกว่าเดินทางไปให้กำลังใจม็อบ และประกาศขู่ลงถนนร่วมชุมนุมม็อบ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของสส. ที่กินเงินภาษีของประชาชน

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่าม็อบที่ออกมาค้านหรือกลุ่มฝ่ายค้าน ตั้งใจบิดเบือน จงใจใช้คำว่า รัฐบาลมุ่งมั่นจะทำกาสิโนอย่างเดียว ทั้งที่หลักการในกฎหมายมีเพียง 10% เท่านั้น อีก 90% เป็นการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร ศูนย์การค้า ศูนย์ประชุม สนามกีฬา สวนสนุก ร้านอาหาร โรงแรมฯ สิ่งเหล่านี้ที่สร้างรายได้หลัก คนที่ต่อต้านกลับไม่พูดถึง หวังทำให้คนเข้าใจสิ่งที่รัฐบาลจะทำเพียงแค่กาสิโน เอาแต่เล่นเกมการเมืองมีเป้าหมายที่จะล้มรัฐบาล ขอให้ตั้งหลักตั้งสติว่าชื่อเรียกมันถูกต้องก่อนที่จะมาค้าน

จากสถานการณ์ของโลก ประเทศไทยกำลังเผชิญกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ การพึ่งพารายได้ภาคการส่งออก ภาคการท่องเที่ยวอาจไม่เพียงพอ ท่ามกลางความท้าทาย โลกที่เปลี่ยนไป รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย มีแนวคิดในการดึงเม็ดเงิน สร้างรายได้เข้าประเทศหลายช่องทางเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เป็นหนึ่งในนั้น ได้ผ่านการศึกษาอย่างรอบด้าน นำโมเดลมาจากต่างประเทศ ที่เคยทำแล้วประสบความสำเร็จ มุ่งหารายได้จากการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร เช่น มาเก๊า สามารถดึงเม็ดเงินเข้าประเทศกว่า 1.2 ล้านล้านต่อปี สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ต่างมีรายได้เข้าประเทศนับแสนล้านบาท

“เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เป็นช่องทางใหม่ในการหาเงินเข้าประเทศ ส่งเสริมการจ้างงาน ส่งเสริมการลงทุน การที่ฝ่ายต่อต้านออกมาตั้งประเด็นคัดค้าน โจมตี ใช้ความเห็นอย่างอคติ ไม่พอใจประกาศจะลงถนน ได้สอบถามประชาชนหรือยังว่า เห็นด้วยกับการชุมนุมอันอาจสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายหรือไม่ กลุ่มบุคคลบางกลุ่ม นักการเมืองหน้าเดิม พรรคการเมืองบางพรรค ไม่รู้ว่าตั้งใจใช้อคติ หยิบยกบางเพียงแง่มุมมาโจมตี ไม่พูดถึงแง่มุมอื่น ไม่ได้ศึกษาผลดี สิ่งที่ประเทศ ประชาชนจะได้รับอย่างมหาศาล หากมีการผลักดันแนวคิดนี้สำเร็จ ไม่รู้ว่ากลุ่มดังกล่าวที่ออกมาเคลื่อนไหว กลุ่มการเมือง ทุนบางกลุ่มคอยให้การสนับสนุนหวังที่จะล้มรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่” นายพร้อมพงศ์กล่าว