เมื่อวันที่ 6 เม.ย. นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทั้งกรณีวัยรุ่นยิงกันในงาน “โคตรเปียก” ซึ่งจัดขึ้นที่ตะวันนา เขตบางกะปิ , เหตุการณ์  “บังมัด” อินฟลูเอ็นเซอร์ ตบหน้าอดีตตำรวจชื่อดังในสถาบันเทิงย่านทองหล่อ หรือกรณีนักศึกษาอาชีวะทะเลาะวิวาทในห้างย่านปทุมวัน ยกพวกไล่ฟันกันบน Skywalk กลางกรุงเทพฯ เป็นต้นโดยเห็นว่าพฤติกรรมความรุนแรงกำลังกลายเป็นเรื่องปกติในสังคม โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ถ้าเราไม่เริ่มแก้ไขวันนี้ วันหน้าสังคมอาจไม่เหลือพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็กและเยาวชนได้เติบโต เสียงปืนและความคึกคะนองไม่ควรเป็นไวรัลที่ถูกแชร์ต่อ แต่ควรเป็นสิ่งที่ถูกหยุดตั้งแต่ต้นทาง  

นายพลภูมิ กล่าวว่า ดังนั้นตนจึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี), สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานความมั่นคง ร่วมกันขับเคลื่อนมาตรการ 4 ด้าน คือ  1.กวาดล้างอาวุธเถื่อน ปราบปรามการผลิตและพกพาปืนเถื่อนโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน 2.จัดการคลิปความรุนแรงในโซเชียล ตรวจสอบและลบเนื้อหาที่อาจกระตุ้นพฤติกรรมเลียนแบบ 3.เชื่อมระบบข้อมูลกลุ่มเสี่ยง – ทำงานร่วมกับโรงเรียน สถานบันเทิง ชุมชน และตำรวจ และ 4.บรรจุหลักสูตร “จัดการอารมณ์ ลดความรุนแรง” เริ่มตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา

นายพลภูมิ กล่าวว่า ความรุนแรงไม่ควรเป็นสิ่งที่เด็กไทยเห็นจนชิน เพราะวันหนึ่งพวกเขาอาจไม่ใช่แค่ผู้ชม แต่อาจกลายเป็นผู้ก่อเหตุ ที่สำคัญประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้กลับคืนมา โดยมีรัฐเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่ตามกระแส