เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 8 เม.ย. 68 ที่ทำการพรรคกล้าธรรม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี พร้อมพรรคร่วมรัฐบาล แถลงเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วาระแรก ในวันที่ 9 เม.ย. 68 นี้ ว่า ตนพูดแบบเป็นกลางเราได้คุยกันโดยตลอดด้วยเหตุผลว่า ในสถานการณ์เวลานี้ควรจะผลักดันเรื่องใด และเรื่องใดควรจะชะลอไว้ก่อน ไม่ใช่เป็นเรื่องความแตกแยกของพรรคร่วมรัฐบาล ในส่วนของพรรคกล้าธรรม เรามีจุดยืนชัดเจนว่า เราฟังเสียงผู้นำรัฐบาลเป็นหลัก ท่านว่าอย่างไร เราก็ว่ายังงั้น เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราต้องให้เกียรติผู้นำรัฐบาล
เมื่อถามถึง ส่วนกรณีพรรคประชาชาติมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับ ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เท่าที่ฟังจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ไม่ได้หมายความแบบนั้น คงมีแค่บางส่วน ไม่ใช่ว่าเป็นมติของพรรค เพราะเขาก็ยังไม่ได้ประชุมกัน เราอย่าเพิ่งไปตีความแบบนั้น ซึ่งเมื่อเช้านี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมาพูดคุยกัน และทุกคนก็มีมติเห็นชอบให้เลื่อนวาระนี้ออกไปก่อน เนื่องจากยังมีวิกฤติอื่นที่ถือว่าเป็นวิกฤติของประเทศและสังคมรออยู่ เราจึงควรชะลอการพิจารณาเรื่องนี้ ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องการเมืองเหมือนสัปดาห์ที่แล้วแน่นอน
“ผมมองว่า เราควรยืนอยู่บนความเป็นจริงของสังคมโลก อย่าทำตัวเป็นพวกเกลียดปลาไหลกินน้ำแกง ทำเป็นพวกสังคมกระแดะ โลก ณ เวลานี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง กฎหมายทุกฉบับเมื่อผ่านความเห็นชอบจากสภา วาระหนึ่ง เมื่อตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) เข้ามาพิจารณามันจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกเยอะ ไม่ได้จำเป็นต้องไปตามฉบับร่าง ทุกวันนี้กฎหมายบางฉบับมันเก่าเกินไป เราก็ต้องแก้ไขให้ทันกับเหตุการณ์ปัจจุบัน มันต้องเป็นหลักสากล” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามถึง กระแสข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร แจ้งพรรคร่วมรัฐบาลหากพรรคใดไม่โหวตเห็นชอบจะถูกขับออกจากพรรคร่วม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องพูดเป็นกลางว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีความคิดมาจากท่านทักษิณ ตนขอยืนยันเพราะอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุด้วย แต่มาจากพรรคร่วมบางพรรคที่ระบุว่า ถ้าเห็นด้วยก็ต้องเห็นด้วยกันทั้งหมด ถ้าไม่เห็นด้วยกันก็ควรที่จะขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามถึง กรณี “สว.สีน้ำเงิน” มีความเห็นค้านในเรื่องนี้นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปคิดว่า สว.เป็นสีนั้น สีนี้ เพราะ สว.คือสภาสูงอันทรงเกียรติ เขาอาจจะมีเหตุผลของเขา แต่สังคมของคนส่วนใหญ่ในประเทศไทยที่ได้ทำประชาพิจารณ์มาแล้ว พบว่า คนส่วนใหญ่เขาเห็นด้วย เราไปมองว่ามันคือ บ่อนกาสิโน แต่จริงๆ แล้วมันคือสถานบันเทิงครบวงจรที่คนทุกรุ่น ทุกวัยสามารถเข้าไปใช้บริการได้ ไม่ได้มีแต่บ่อนการพนันเท่านั้น ตนได้คุยกับหลายๆ ท่านไม่ใช่เฉพาะท่านทักษิณ วันนี้บ้านเราเป็นไข่แดง ประเทศเพื่อนบ้านเราก็มีไปหมดแล้ว เราต้องพัฒนาตัวเองตามหลักสากลที่ประเทศทั่วโลก
เมื่อถามว่า ในเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับการปรับ ครม.หรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ แต่มองว่าคนไทยต้องตื่นได้แล้ว สังคมโลกวันนี้ไม่ปกติ จากสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจทุกประเทศที่กำลังประกาศเป็นสังคมการค้าเสรี ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ขีปนาวุธสู้กัน อันนี้เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก เราจะทำยังไงให้คนไทยกินดีอยู่ดี ทำให้คนฐานรากได้มีโอกาสลืมตาอ้าปากบ้าง พวกตนลงพื้นที่ทุกอาทิตย์ วันนี้รู้ดีว่าคนไทยฐานรากกำลังลำบากอย่างมาก หรือคนที่ด้อยโอกาสอย่างเช่นคนพิการ ที่วันนี้ได้มาร่วมอุดมการณ์กับพรรคกล้าธรรม เพราะเขารู้ว่า เราใส่ใจคนฐานราก ไม่ว่าจะเป็นคนพิการหรือคนด้อยโอกาส เรื่องนี้รัฐบาลต้องให้ความสนใจ.