เมื่อวันที่ 12 เม.ย. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ไทย 2568 มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน และยังมีวันสำคัญคือวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 13 เม.ย. และวันแห่งครอบครัว วันที่ 14 เม.ย. ในนามของกระทรวง พม. ขออวยพรให้พี่น้องประชาชนทุกคน ได้ใช้เวลาอย่างมีความสุขอยู่ด้วยกันกับครอบครัว ญาติพี่น้อง ปู่ย่าตายาย และลูกหลาน เพื่อสร้างสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็งให้กับสังคมไทย

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า สำหรับคนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันนี้ ขอให้คนเดินทางโดยสวัสดิภาพ ขับรถด้วยความระมัดระวัง ปลอดภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเดินทาง เมาไม่ขับ และง่วงไม่ขับ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและดูแลพี่น้องกลุ่มเปราะบาง กลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ได้แก่ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และคนพิการ รวมถึงประชาชนทั่วไป ทีม พม. หนึ่งเดียว จังหวัดทั่วประเทศ จึงได้จัดเปิดพื้นที่หน่วยงานที่อยู่บนถนนสายหลักและสายรอง ให้เป็นจุดพักรถบริการประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ตั้งแต่วันนี้-17 เม.ย. 2568 ซึ่งจะมีบริการที่จอดรถ ห้องน้ำคนพิการและผู้สูงอายุ มุมพักผ่อนสำหรับน้ำดื่ม กาแฟ อาหารว่าง พร้อมให้คำแนะนำปรึกษาด้านสิทธิสวัสดิการสังคมต่างๆ ของกระทรวง พม.

ทั้งนี้ หากต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ขอให้ติดต่อที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ผ่านสายด่วน พม. โทร. 1300 บริการ 24 ชั่วโมง

สำหรับจุดบริการประชาชนประกอบด้วย 1.ภาคเหนือ ได้แก่ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดแพร่ พะเยา และตาก, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งสันมหาพน จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดน่านและแม่ฮ่องสอน, นิคมสร้างตนเองเขื่อนภูมิพล จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน จังหวัดเชียงใหม่ (ถนนสายเขื่อนแม่งัด), บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย น่าน แพร่แม่ฮ่องสอน ลำปาง สุโขทัย และอุตรดิตถ์, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านเชียงใหม่, ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดเชียงราย ลำพูน และลำปาง, ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์ จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดลำปาง

2.ภาคกลาง ได้แก่ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านกึ่งวิถี (ชาย) จังหวัดปทุมธานี (ถนนรังสิต-นครนายก), ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการบ้านโมกุล เฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ จังหวัดลพบุรี (อำเภอชัยบาดาล), บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครนายก นนทบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ และสุพรรณบุรี, สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิตและพญาไท, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ, สถานแรกรับเด็กชายบ้านปากเกร็ด, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด, สถานสงเคราะห์เด็กหญิงสระบุรี, สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ กทม., ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี, สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านสองแคว จังหวัดพิษณุโลก, ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครปฐม สุโขทัย และกำแพงเพชร, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งวังทอง จังหวัดพิษณุโลก, นิคมสร้างตนเองตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์, นิคมสร้างตนเองทุ่งโพธิ์ทะเล จังหวัดกำแพงเพชร, นิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก และนิคมสร้างตนเองประจวบคีรีขันธ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค กทม., ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนเวศม์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และศูนย์พัฒนาการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดปทุมธานี

3.ภาคตะวันตก ได้แก่ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการจังหวัดราชบุรี (อำเภอเมือง) และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดราชบุรี

4.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ บ้านทองพูนเผ่าพนัส อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี, ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย, บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม บึงกาฬ มุกดาหาร ยโสธร เลย ศรีสะเกษ สกลนคร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี อุดรธานี และนครราชสีมา, สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กขอนแก่น, สถานสงเคราะห์เด็กบ้านแคนทอง, สถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็กจังหวัดหนองคาย, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านหนองคาย, ศูนย์พัฒนาการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม ขอนแก่นและบุรีรัมย์, ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น และศรีสะเกษ, สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ จังหวัดนครราชสีมา, ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสุรินทร์ กาฬสินธุ์ นครพนม บึงกาฬ ร้อยเอ็ด อุดรธานี และอุบลราชธานี, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งบ้านเมตตาจังหวัดนครราชสีมา, นิคมสร้างตนเองปราสาท จังหวัดสุรินทร์, นิคมสร้างตนเองโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย, นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อยจังหวัดอุบลราชธานี, นิคมสร้างตนเองลำโดมใหญ่จังหวัดอุบลราชธานี และนิคมสร้างตนเองลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์

5.ภาคใต้ ได้แก่ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช และสงขลา, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช, นิคมสร้างตนเองรัตภูมิ จังหวัดสงขลา, นิคมสร้างตนเองขุนทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานี, ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคใต้ จังหวัดสงขลา, สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี, ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช, บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา และสตูล, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านศรีธรรมราช, สถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา, สถานสงเคราะห์เด็กชายจังหวัดยะลา, สถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็กจังหวัดสุราษฎร์ธานี, ศูนย์พัฒนาการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดภูเก็ต และสงขลา และศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านทักษิณ จังหวัดยะลา

6.ภาคตะวันออก ได้แก่ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการการุณยเวศม์ จังหวัดชลบุรี (ถนนสุขุมวิท), บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ระยอง และปราจีนบุรี, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านบางละมุง, สถานสงเคราะห์พัฒนาและฟื้นฟูเด็ก จังหวัดชลบุรี, สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กจังหวัดระยอง, ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง จังหวัดชลบุรี และศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี.