สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ว่า นพ.มาร์ติน มาคารี กรรมาธิการเอฟดีเอ กล่าวว่า ความริเริ่มนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ในการทดลองยา มีเป้าหมายเพื่อลดการทดลองในสัตว์ ปรับปรุงวิธีการ หรือแทนที่ด้วย “New Approach Methodologies” (เอ็นเอเอ็ม) หรือแนวทางวิธีการใหม่ ซึ่งรวมไปถึงการใช้แบบจำลองที่อ้างอิงตามเอไอ เพื่อคาดการณ์พฤติกรรมของยา และผลข้างเคียง รวมถึงการทดสอบในโครงสร้างคล้ายอวัยวะมนุษย์ ที่สร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการ

ข้อมูลจากสมาคมวิจัยชีวการแพทย์แห่งชาติ (เอ็นเอบีอาร์) ระบุว่า ปัจจุบัน ยังไม่มีสิ่งทดแทนการทดสอบในตัวอย่างสัตว์ ทั้งในงานวิจัยชีวการแพทย์และการพัฒนายา แม้เอไอจะมีแนวโน้มช่วยเร่งความเร็วในหลายด้านของการวิจัย

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยส่วนใหญ่ของการทดลอง ล้วนขึ้นอยู่กับการใช้ข้อมูลที่มีอยู่ ดังนั้น ตัวแปรที่ไม่รู้จักอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ป่วยได้ จึงถือเป็นการทดลองน่าสนใจ เพื่อที่จะได้เห็นว่า เอไอสามารถทดแทนสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพตัวไหนได้หรือไม่

ด้านเอฟดีเอกล่าวว่า พวกเขาจะเริ่มนำแนวทางใหม่นี้มาใช้ทันที โดยสนับสนุนการใช้ข้อมูลจากเอ็นเอเอ็ม แทนข้อมูลจากการทดลองในสัตว์ ขณะที่บริษัทต่าง ๆ ซึ่งส่งข้อมูลความปลอดภัยจากการทดลองที่ไม่ได้ใช้สัตว์ อาจได้รับการตรวจสอบแบบรวดเร็ว เพื่อจูงใจให้เกิดลงทุนในการทดสอบที่ทันสมัย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES