เมื่อวันที่ 18 เม.ย. พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรมอนามัย ได้ส่งทีม SEhRT กรมอนามัย ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว เจเจ มอลล์ จตุจักร เพื่อประเมินความเสี่ยง โดยมีการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก บริเวณโดยรอบพื้นที่ที่มีเหตุการณ์ตึกถล่ม และสำรวจคุณภาพอากาศภายในศูนย์พักพิงฯ ต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ผู้ปฏิบัติงานกู้ซากอาคารถล่ม และญาติผู้ประสบภัย จากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา พร้อมกันนี้ ยังได้มอบชุดตรวจสอบการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียในน้ำและอาหารเบื้องต้นให้กับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่

ด้าน นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ดำเนินการตรวจวัดคุณภาพอากาศ 2 จุด จุดแรก ตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในเต็นท์ศูนย์พักพิง (มูลนิธิกันจอมพลัง) โดยการตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเบื้องต้น (Screening) เมื่อวันที่ 4-5 เม.ย. 2568 ได้แก่ PM10 มีค่าอยู่ในช่วง 49.1-109.1 µg/m3 สำหรับ PM2.5 มีค่าอยู่ในช่วง 24.2-42.9 µg/m3 และสารอินทรีย์ระเหยรวม (TVOC) มีค่าความเข้มข้นที่ 160 ppb ส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่อาจมีบางจุดตรวจวัด ที่พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินเกณฑ์มาตรฐานอยู่บ้าง ซึ่งเป็นค่าที่พบได้โดยทั่วไป และอาจต้องมีการเฝ้าระวังในระยะยาว สำหรับจุดที่ 2 ณ พื้นที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าเต็นท์ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ โดยเก็บตัวอย่างอากาศ เพื่อนำไปวิเคราะห์ปริมาณฝุ่นรวม (TSP) และโลหะหนักประกอบด้วย ปรอท (Hg) ตะกั่ว (Pb) แคดเมียม (Cd) ทองแดง (Cu) โครเมียม (Cr) รวมถึงเก็บตัวอย่างอากาศเพื่อวิเคราะห์แร่ใยหิน (Asbestos) ผลการวิเคราะห์พบว่า ปริมาณโลหะหนักในฝุ่นและแร่ใยหินอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่พบปริมาณฝุ่นรวม (TSP) มีค่า 808 µg/m3 สูงกว่าค่ามาตรฐานตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำหนดไว้ไม่เกิน 330 µg/m3

นพ.ธิติ กล่าวอีกว่า จึงได้แจ้งผลแก่ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อประสานการแนะนำให้ผู้ปฏิบัติงานหรือเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานสัมผัสกับฝุ่นอยู่ตลอดเวลา สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (พีพีอี) ในขณะปฏิบัติงาน เช่น หน้ากากป้องกันฝุ่น N95 แว่นตา หากมีการระคายเคืองทางผิวหนัง ให้รีบทำความสะอาดร่างกาย และจัดให้มีบริเวณพื้นที่ปลอดฝุ่น เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน สำหรับญาติผู้ประสบภัยที่อาศัยภายในศูนย์พักพิงฯ ควรมีมาตรการป้องกันไม่ให้อากาศที่ปนเปื้อนฝุ่นจากภายนอกเข้ามาภายในเต็นท์พัก รวมทั้งแนะนำให้ผู้พักอาศัยภายในศูนย์พักพิง สวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ.