สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งมีอิทธิพลทางการเมืองในเลบานอนมาอย่างยาวนาน อ่อนแอลงจากการสู้รบกับอิสราเอลเป็นเวลานานกว่า 1 ปี โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากสงครามในฉนวนกาซา รวมถึงการรุกคืบภาคพื้นดินของอิสราเอล และการโจมตีอย่างหนักนาน 2 เดือน ที่สังหารผู้นำกลุ่ม
แม้การสู้รบยุติลงเป็นส่วนใหญ่ ตามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือน หลังนายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์คนก่อนหน้า เสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล
“เราจะไม่ยอมให้ใครก็ตามมาปลดอาวุธของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ หรือปลดอาวุธของกองกำลังต่อต้านอิสราเอล” กัสเซ็ม กล่าว “เราต้องตัดแนวคิดเรื่องการปลดอาวุธเช่นนี้ออกจากพจนานุกรม”
#UPDATE: #Hezbollah 'will not let anyone disarm it', says chief #Lebanon #Israel https://t.co/kckIcntGi5 pic.twitter.com/PXr4ihQymv
— Arab News (@arabnews) April 18, 2025
ทั้งนี้ นายโจเซฟ อาอูน ประธานาธิบดีเลบานอน กล่าวในช่วงที่ผ่านมาว่า เขาต้องการทำให้ปี 2568 เป็น “ปีแห่งการจำกัดอาวุธให้กับรัฐ” พร้อมกับเสริมว่า เขาหวังว่าที่จะบรรลุเป้าหมายข้างต้นผ่าน “การเจรจา” กับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
ขณะที่กัสเซ็มกล่าวว่า กลุ่มของเขาพร้อมที่จะเจรจาเกี่ยวกับ “กลยุทธ์การป้องกัน” แต่รัฐบาลเบรุตต้องไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันการยึดครองจากอิสราเอล โดยระบุว่า อิสราเอลต้องถอนกำลังออกจากทางตอนใต้ของเลบานอน และหยุดการรุกราน อีกทั้งรัฐเลบานอนต้องเริ่มกระบวนการฟื้นฟูประเทศ
อนึ่ง ความคิดเห็นของกัสเซ็ม มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังเจ้าหน้าที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์อีกคนหนึ่งกล่าวว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ปฏิเสธที่จะหารือเรื่องการส่งมอบอาวุธ จนกว่าอิสราเอลจะถอนกำลังทั้งหมดออกจากพื้นที่ตอนใต้ของเลบานอน
ด้านนางมอร์แกน ออร์ทากัส ทูตพิเศษของสหรัฐ ประจำตะวันออกกลาง ซึ่งเดินทางเยือนกรุงเบรุตในเดือนนี้ กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันยังคงกดดันรัฐบาลเบรุตอย่างต่อเนื่อง ให้ยุติการสู้รบอย่างเต็มที่ ตลอดจนปลดอาวุธของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และกองกำลังติดอาวุธทั้งหมด.
เครดิตภาพ : AFP