เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 เม.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะดึงกระทรวงมหาดไทยกลับคืนว่า ก็เห็นตามข่าวหนังสือพิมพ์ แต่ไม่มีความกังวล เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จัดตั้งรัฐบาลมาด้วยกัน พรรคภูมิใจไทย มี สส. 71 คน เราก็ยกมือสนับสนุนนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมาถึง 2 คนแล้ว คือนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เป็นสิ่งที่เรามาร่วมรัฐบาลจนถึงทุกวันนี้ ทำงานร่วมกันก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ตอบสนองข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในทุกเรื่อง พร้อมยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ยังไม่เคยพูดเรื่องปรับ ครม.
“ผมยังงงอยู่เลยว่า สัญญาณปรับ ครม. ส่งไปที่สำนักข่าวหรือผู้วิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่มาถึงหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ถามหัวหน้าพรรคร่วมคนไหนก็ไม่มีใครบอกว่าได้รับสัญญาณใดๆ ทุกคนยังมีความตั้งใจ เต็มใจในการปฏิบัติหน้าที่สนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาล” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า การปล่อยข่าวแบบนี้เป็นการเขย่าเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย และพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โอ้โห…ต้องใช้แรงเยอะนะ ไม่น่าจะมีเรื่องพวกนี้ จะเขย่าทำไม ต่างคนต่างทำงาน ไม่เห็นมีปัญหาอะไรในการทำงาน ทำงานร่วมกันมาจะ 2 ปีอยู่แล้ว ทุกคนก็ทำงาน ก็ได้รับเกียรติ และนายกรัฐมนตรีก็สั่งงานตลอดเวลา เช่น เรื่องตึก สตง. ถล่ม ก็ติดตามให้กรมโยธาธิการฯ ของกระทรวงมหาดไทย เร่งหาสาเหตุให้ชัดเจนโดยเร็ว ตอนนี้ในภาควิชาชีพต่างๆ ก็เริ่มเห็นพ้องต้องกันว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากจุดไหน
เมื่อถามถึงผลสำรวจนิด้าโพล ที่ออกมาว่าถึงเรื่อง กระทรวงที่ควรปรับ ครม. โดยกระทรวงมหาดไทยอยู่ ลำดับที่ 6 นายอนุทิน กล่าวว่า “โล่งอก เรื่องปรับ ครม. ขอเป็นบ๊วย”
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวตัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างที่บอกมาด้วยกันอย่างดี พรรคภูมิใจไทยให้การสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด และเป็นพรรคที่ประกาศประกาศชัดเจนว่าในการปฏิบัติราชการแผ่นดิน ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ทำผิดกฎหมายใด ไม่ทำผิดจริยธรรมหรือศีลธรรมใด ถ้าถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสภา พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคแรกที่ออกมาบอกว่าจะปกป้อง และให้ความไว้วางใจ สนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี โดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ
เมื่อถามย้ำว่าตามสมการ สามารถปรับออกได้จริงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราจะไปดูคณิตศาสตร์อย่างเดียวไม่ได้ มันต้องดูเรื่องความผูกพัน ความร่วมมือในการทำงาน และความตั้งใจที่จะร่วมรัฐบาล ถ้าจำได้พรรคภูมิใจไทยถูกเชิญให้ไปร่วมรัฐบาล ในช่วงเดือน ก.ค.หรือ ส.ค. 2566 เมื่อมีการหารือกัน เราก็เห็นว่าน่าจะร่วมกันทำงานได้ดี ก็ร่วมรัฐบาลและยั่งยืนมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องปรับเปลี่ยนอะไร เพราะการทำงานไม่มีปัญหา ยังงงว่าทำไมฝั่งสื่อถึงมีการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยถูกมองว่ามีอำนาจต่อรองมากนั้น ยืนยัน ไม่มีคำว่าต่อรองอะไรทั้งสิ้น ถ้าต่อรองก็คงไม่มีอยู่แค่นี้
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ช่วงก่อนสงกรานต์ได้มีการไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแขกจากต่างประเทศที่เคยรู้จักกัน นายทักษิณ จึงชวนตนไปทานอาหารด้วย ซึ่งการพูดคุยวันนั้นไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะตนก็รู้จักกับแขกของนายทักษิณด้วย ไม่มีนักการเมือง ไม่มีรัฐมนตรี แต่เป็นเรื่องส่วนตัว เมื่อถามย้ำว่าแสดงความสัมพันธ์ยังแน่นปึ้กใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ยังไม่เข้าใจ ว่าทำไมขยันวิเคราะห์กันจัง.