เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอการปรับค่าจ้างชดเชยให้แก่ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างแรกบรรจุของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ในการกำหนดอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รับรองให้รัฐวิสาหกิจ พิจารณาตามแนวทางที่เหมาะสมกับองค์กรแต่ละแห่ง ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครรส.) เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2567

นายคารม กล่าวว่า ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานเสนอต่อ ครม. ให้พิจารณาปรับค่าจ้างชดเชยให้แก่ลูกจ้าง เช่น ปรับค่าจ้างชดเชยให้ลูกจ้างระดับปริญญาตรี อัตราแรกบรรจุไม่ต่ำกว่า 16,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2567 และไม่ต่ำกว่า 18,150 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568 อัตราเงินเดือนค่าจ้างที่รวมเงินชดเชยแล้ว ต้องไม่น้อยกว่าอัตราเงินเดือนค่าจ้างของผู้ที่เข้าทำงานใหม่ ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการได้โดยใช้งบประมาณของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง และไม่มีผลกระทบต่อภาระงบประมาณ

นายคารม กล่าวว่า การปรับค่าจ้างชดเชยให้ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราแรกบรรจุของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 1 (1 พ.ค. 2567) มีลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ 58,655 คน ได้ปรับค่าจ้างชดเชย โดยรัฐวิสาหกิจต้องจ่ายชดเชย 61,164 คน ได้ปรับค่าจ้างชดเชย โดยรัฐวิสาหกิจต้องจ่ายชดเชย 1,159 ล้านบาท โดยกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการตามมาตรา 7 และมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 แล้ว