สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ว่า บทลงโทษดังกล่าว อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอียูกับทรัมป์ ตึงเครียดยิ่งขึ้น ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังหารือเกี่ยวกับข้อตกลงที่ช่วยให้อียู หลีกเลี่ยงมาตรการภาษีของทรัมป์

คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ดำเนินการปรับแอปเปิล เป็นจำนวนเงิน 500 ล้านยูโร (ราว 19,000 ล้านบาท) หลังจากสรุปว่า บริษัทห้ามไม่ให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ แนะนำช่องทางอื่นนอกจากแอปสโตร์ เพื่อเข้าถึงข้อเสนอที่มีราคาถูกกว่า ส่วนเมตาถูกปรับเงิน 200 ล้านยูโร (ราว 7,600 ล้านบาท) เนื่องจากบริษัทละเมิดกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม

การดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นการปรับครั้งแรก ภายใต้กฎหมายตลาดดิจิทัล (ดีเอ็มเอ) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปีที่แล้ว โดยบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของโลก ต้องเปิดกว้างให้มีการแข่งขันในอียู

ทั้งนี้ อีซีระบุเสริมว่า ค่าปรับข้างต้นอาจเพิ่มขึ้นอีก หากเมตาและแอปเปิลไม่ปฏิบัติตามภายใน 60 วัน รวมถึงขู่ว่าทั้งสองบริษัทจะต้องจ่ายค่าปรับเป็นระยะ ๆ

ด้านนางเทเรซา ริเบรา กรรมาธิการต่อต้านการผูกขาด กล่าวในแถลงการณ์ว่า ค่าปรับดังกล่าว ส่งสารที่ชัดเจนและหนักแน่น และยืนกรานว่า อียูดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง แต่สมดุล อย่างไรก็ตาม เธอปฏิเสธว่าการดำเนินการครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามการค้าของทรัมป์ และกฎระเบียบการแข่งขันของอียู มีผลบังคับใช้กับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน

กระนั้น แอปเปิลวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของอียู และระบุในแถลงการณ์ว่าจะอุทธรณ์ค่าปรับ ขณะที่เมตากล่าวหาว่า อียูพยายามทำให้ธุรกิจของอเมริกาที่ประสบความสำเร็จ ต้องเสียเปรียบ แต่อนุญาตให้บริษัทในจีนและยุโรป ดำเนินงานภายใต้มาตรฐานที่แตกต่างกัน.

เครดิตภาพ : AFP