สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงการที่รัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางทหารครั้งใหญ่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ด้วยขีปนาวุธ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอบ่างน้อย 77 คน ว่าเป็นเรื่องที่เขา “ไม่แฮปปี้ เพราะเกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น” และต้องการให้รัสเซียหยุด แต่ไม่ได้กล่าวว่า แล้วสหรัฐจะกดดันหรือหารือกับอีกฝ่ายในเรื่องนี้อย่างไร

ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังคงยืนยันว่า การที่สหรัฐเป็นคนกลางระหว่างรัสเซียกับยูเครน “กำลังเข้าใกล้” สันติภาพ กล่าวคือ การที่รัสเซียให้คำมั่น “จะไม่ยึดครองยูเครนทั้งประเทศ”


อนึ่ง นายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลวอชิงตัน มีกำหนดเยือนกรุงมอสโกอีกครั้งในเร็ววันนี้ เพื่อเข้าพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย


ทั้งนี้ ทรัมป์เพิ่งแสดงความไม่พอใจกับท่าทีของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เกี่ยวกับสถานะของคาบสมุทรไครเมีย ที่รัสเซียผนวกรวมเมื่อปี 2557 อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า เขาเพียงต้องการให้สงครามยุติเท่านั้น


ด้านเซเลนสกีกล่าวถึงการโจมตีครั้งล่าสุดของรัสเซีย ว่าเป็นการใช้ขีปนาวุธที่ผลิตในเกาหลีเหนือ และตั้งคำถามว่า บรรดาพันธมิตรของรัฐบาลเคียฟ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในยุโรป “ดำเนินการเพียงพอแล้วหรือไม่” ในการกดดันรัสเซียให้เจรจา และยอมรับการหยุดยิง.

เครดิตภาพ : AFP