สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ว่า ที่ประชุมสภาจังหวัดโอซากา มีมติเห็นชอบในวาระสุดท้าย รับรองกฎหมายห้ามผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปี ใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างทำธุรกรรมที่ตู้กดเงินสด หรือตู้เอทีเอ็ม เพื่อบรรเทาความเสี่ยงของการเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์


ภายใต้กฎหมายดังกล่าวของจังหวัดโอซากา สถาบันการเงินและผู้ประกอบการธุรกิจมีหน้าที่ต้องสร้างความตื่นตัว และส่งเสริมความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนในเรื่องนี้


แม้กฎหมายไม่ได้ระบุโดยตรงเกี่ยวกับบทลงโทษผู้กระทำความผิด แต่ทางการจังหวัดโอซากาหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าการบัญญัติกฎหมายนี้จะเป็นการสร้างบรรทัดฐาน และฉันทามติให้กับสังคม ให้ช่วยกันป้องกันกลโกงออนไลน์ ซึ่งผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อมากขึ้น


ขณะเดียวกัน กฎหมายฉบับใหม่ของจังหวัดโอซากา ยังสั่งให้สถาบันการเงินทุกแห่งในพื้นที่ จำกัดการโอนเงินไม่เกิน 100,000 เยนต่อวัน (ราว 23,393.03 บาท) สำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 70 ปี ซึ่งไม่มีประวัติการทำธุรกรรมผ่านเอทีเอ็มในรอบ 3 ปีล่าสุด


นอกจากนี้ ผู้ประกอบการค้าปลีกและร้านสะดวกซื้อต้องมีมาตรการตรวจสอบ ว่าการซื้อ “บัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์” ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 50,000 เยนนั้น (ราว 11,696.51 บาท) เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมฉ้อโกงหรือไม่ โดยทางการจังหวัดโอซาการ่วมมือกับตำรวจท้องถิ่น กำหนด “สัญญาณเตือน 7 ประการ” เพื่อให้พนักงานร้านสะดวกซื้อสอบถามลูกค้าสูงวัย ว่าการซื้อบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ “เกิดขึ้นตามคำสั่งของบุคคลอื่นใดหรือไม่”


อนึ่ง มาตรการทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้ในเดือน ส.ค. นี้ ยกเว้นการจำกัดการทำธุรกรรมของผู้มีอายุตั้งแต่ 70 ปี จะมีผลในเดือน ต.ค. โดยจังหวัดโอซากาจะเป็นจังหวัดแรกของญี่ปุ่น ซึ่งบัญญัติและบังคับใช้กฎหมายนี้.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES