สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ว่า ที่ประชุมสภาจังหวัดโอซากา มีมติเห็นชอบในวาระสุดท้าย รับรองกฎหมายห้ามผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปี ใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างทำธุรกรรมที่ตู้กดเงินสด หรือตู้เอทีเอ็ม เพื่อบรรเทาความเสี่ยงของการเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์
ภายใต้กฎหมายดังกล่าวของจังหวัดโอซากา สถาบันการเงินและผู้ประกอบการธุรกิจมีหน้าที่ต้องสร้างความตื่นตัว และส่งเสริมความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนในเรื่องนี้
In a first for Japan, the Osaka prefectural government will ban people 65 and older from using ATMs while speaking on mobile phones to try to prevent "special fraud" schemes that frequently target the elderly. https://t.co/a6iiDJ156t
— The Japan Times (@japantimes) April 24, 2025
แม้กฎหมายไม่ได้ระบุโดยตรงเกี่ยวกับบทลงโทษผู้กระทำความผิด แต่ทางการจังหวัดโอซากาหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าการบัญญัติกฎหมายนี้จะเป็นการสร้างบรรทัดฐาน และฉันทามติให้กับสังคม ให้ช่วยกันป้องกันกลโกงออนไลน์ ซึ่งผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อมากขึ้น
ขณะเดียวกัน กฎหมายฉบับใหม่ของจังหวัดโอซากา ยังสั่งให้สถาบันการเงินทุกแห่งในพื้นที่ จำกัดการโอนเงินไม่เกิน 100,000 เยนต่อวัน (ราว 23,393.03 บาท) สำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 70 ปี ซึ่งไม่มีประวัติการทำธุรกรรมผ่านเอทีเอ็มในรอบ 3 ปีล่าสุด
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการค้าปลีกและร้านสะดวกซื้อต้องมีมาตรการตรวจสอบ ว่าการซื้อ “บัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์” ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 50,000 เยนนั้น (ราว 11,696.51 บาท) เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมฉ้อโกงหรือไม่ โดยทางการจังหวัดโอซาการ่วมมือกับตำรวจท้องถิ่น กำหนด “สัญญาณเตือน 7 ประการ” เพื่อให้พนักงานร้านสะดวกซื้อสอบถามลูกค้าสูงวัย ว่าการซื้อบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ “เกิดขึ้นตามคำสั่งของบุคคลอื่นใดหรือไม่”
อนึ่ง มาตรการทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้ในเดือน ส.ค. นี้ ยกเว้นการจำกัดการทำธุรกรรมของผู้มีอายุตั้งแต่ 70 ปี จะมีผลในเดือน ต.ค. โดยจังหวัดโอซากาจะเป็นจังหวัดแรกของญี่ปุ่น ซึ่งบัญญัติและบังคับใช้กฎหมายนี้.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES