สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ว่า นางเลทิเซีย คาร์วัลโญ หัวหน้าไอเอสเอ กล่าวในแถลงการณ์ว่า ไม่มีรัฐใดมีสิทธิที่จะแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรแร่ธาตุในพื้นที่เพียงฝ่ายเดียว นอกกรอบกฎหมายที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (อันคลอส)

อย่างไรก็ตาม สหรัฐ ซึ่งไม่ได้ลงนามในอันคลอส ระบุว่า น่านน้ำสากลและทรัพยากรในพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็น “มรดกร่วมของมนุษยชาติ”

ทั้งนี้ ไอเอสเอพยายามออกแบบกฎเกณฑ์สำหรับการทำเหมืองใต้ทะเลลึก โดยสร้างสมดุลระหว่างศักยภาพทางเศรษฐกิจ กับความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมที่ไม่สามารถแก้ไขได้

อนึ่ง รัฐบาลวอชิงตันต้องการเป็นผู้นำ ในการทำเหมืองในพื้นมหาสมุทรซึ่งลึกที่สุด โดยหลีกเลี่ยงความพยายามระดับโลกในการกำกับดูแลการสำรวจที่อาจสร้างความเสียหาย และดูเหมือนว่าจะอาศัยกฎหมายเก่าที่มีอายุนานหลายสิบปี และคลุมเครือ ซึ่งอนุญาตให้รัฐบาลกลางออกใบอนุญาตทำเหมืองใต้ทะเลลึกในน่านน้ำสากล

กระนั้น ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้หลายประเทศคัดค้านอย่างรุนแรง ขณะที่คาร์วัลโญ กล่าวเพิ่มเติมว่า การตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์เป็นเรื่องที่ “น่าประหลาดใจ” เนื่องจากรัฐบาลวอชิงตันเป็นผู้สังเกตการณ์ที่น่าเชื่อถือ และผู้สนับสนุนรายสำคัญต่อการดำเนินงานของไอเอสเอ มานานกว่า 30 ปี.

เครดิตภาพ : AFP