เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 2 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ถูกร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติการถือหุ้น ว่า ถ้าถามตนเรื่องนี้ต้องบอกว่าโดยมารยาทไม่ควรพูดอะไร ไม่ใช่เรื่องของตน เป็นเรื่องของนายพีระพันธ์ุ และอีกอย่างข้อเท็จจริง เราก็ไม่รู้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องอะไร ตนขอถามสื่อว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่ เพราะไปดูคำร้องแล้วก็รู้สึกงงว่าถือหุ้น แต่ข้อเท็จจริงเขาบอกว่าไม่ได้ถือ มีภรรยากับบุตรถือ หรือบอกว่าเป็นกรรมการ ก็มั่วไปหมด เพราะฉะนั้นคนที่รู้ที่สุดคือผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ตนไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องก็ไม่อยากไปพูดอะไร โดยเฉพาะเป็นเรื่องของรองนายกฯ หากตนไปพูดอะไรก็เหมือนจะเสียมารยาท ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนายพีระพันธ์ุ และคนที่เกี่ยวข้องพูดจากัน ที่สำคัญเรายังไม่รู้ว่าองค์กรอิสระที่ไปร้องรับเรื่องหรือยัง
เมื่อถามว่า ตอนนี้อยู่ที่ข้อเท็จจริงว่าถือหุ้นเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถจะพูดได้ เพราะเรายังไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่คนที่จะเป็นรัฐมนตรีต้องผ่านการตรวจสอบมาโดยละเอียด ตนเองก็ต้องถูกรับรองผ่านการตรวจสอบ
เมื่อถามว่า มีนักวิชาการบอกว่าถ้าขัดรัฐธรรมนูญ ก็อาจจะขัดกับจริยธรรมของนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะเป็นผู้แต่งตั้ง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าเทียบเคียงกับกรณีอื่นๆ ที่ผ่านมา ตนมองว่าคนละเรื่องกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องของตัวบุคคลว่ามีคุณสมบัติหรือไม่ หากตรวจสอบก็ผ่านการตรวจสอบจากเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และข้อสำคัญที่ตนอยากย้ำคือข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ยังไม่รู้ เพราะฉะนั้นคนที่เกี่ยวข้องเท่านั้นถึงจะทราบว่าเป็นอย่างไร เพราะเป็นเรื่องของคนอื่น “เดี๋ยวนายพีระพันธ์ุจะมาบอกว่ามายุ่งอะไรกับผม มันคนละเรื่องกัน แต่สื่อมาถามก็พูดได้บ้าง แต่ไม่ฟันธงว่าผิดไม่ผิด” นายชูศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในฐานะที่นายพีระพันธ์ุเป็นนักกฎหมาย มั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่ตกม้าตาย นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การแต่งตั้งบุคคลก็ต้องผ่านการตรวจสอบโดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าผ่านการใช้ความระมัดระวังมาอย่างเต็มที่แล้ว