เมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ตนเห็นด้วยที่นายพิชัย ชุหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ระบุว่า จะต้องทบทวนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 รวมถึงควรใช้งบประมาณกับเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนก่อน และเรื่องการกู้เงินให้เป็นตัวเลือกท้ายสุด เพื่อเป็นการเตรียมการรองรับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีของสหรัฐ ซึ่งเรื่องนี้มีคำแนะนำจากนักเศรษฐศาสตร์ที่เชี่ยวชาญเศรษฐกิจว่าไม่ควรผลักดันโครงการเงินดิจิทัล เฟส 3 เนื่องจากต้องใช้งบประมาณก้อนใหญ่ ควรชะลอออกไปก่อนและเพื่อเตรียมการรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบหนักกับไทย ซึ่งตนเห็นด้วยให้มีการทบทวนการใช้งบประมาณของรัฐให้เกิดความรอบคอบ คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ
นายธนกร กล่าวอีกว่า ตนเสนอว่าในช่วง 2-3 เดือนนี้ อยากให้รัฐบาลพิจารณาใช้งบประมาณในส่วนที่เข้าไปช่วยเหลือพยุงราคาสินค้าเกษตรหลายชนิด ที่กำลังตกต่ำ อีกทั้ง ตนขอเสนอให้แบ่งงบประมาณมาบริหารใช้ในการทำโครงการ “คนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในประเทศ ซึ่งโครงการนี้ เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
“ตนเห็นด้วยที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ในเวลานี้ได้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลกขึ้น เรื่องของกำแพงภาษีจากสหรัฐอเมริกากระทบหนักกับภาคส่งออกประเทศไทย หากจะอัดฉีดเม็ดเงินในการแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 ในเวลานี้ รัฐบาลจะต้องคิดให้รอบคอบทุกด้าน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไม่สร้างปัญหาใหม่ หรือไม่เป็นการซ้ำเติมทำให้เศรษฐกิจทรุดหนักมากขึ้น” นายธนกร กล่าว.