เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่วัดสระขี้ตุ่น  ต.หนองบัวตะเกียด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา  นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดจัดแถลงข่าวประกาศการชุมนุมแสดงพลัง “ก่อนบ้านจะบึ้ม เราจะบล็อก” เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัทเหมืองแร่โปแตชภายใต้การควบคุมของบริษัทบางจากยุติการเดินหน้าขุดเจาะอุโมงค์ใหม่ด้วยการใช้ระเบิด 

โดยนางภิรมย์ มืดขุนทด ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ตัวแทนกลุ่มอ่านแถลงการณ์ว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมานับแต่เหมืองแร่โปแตชแห่งนี้เข้ามาดำเนินการในพื้นที่ ผลกระทบก็ได้เริ่มปะทุขึ้น ลักลอบปล่อยน้ำเค็มออกมานอกโครงการจนที่ดินทำกินของชาวบ้านในพื้นที่เสียหาย  แหล่งน้ำสาธารณะถูกทำลายใช้ประโยชน์ไม่ได้ จนทำให้หลายคนต้องจำใจขายที่ดินเพื่อหนีผลกระทบ บ้านที่เป็นผืนดินผืนสุดท้ายของหลายคน ก็ถูกกัดกร่อนจากไอเกลือจนไม่รู้ว่าจะถล่มลงมาในวันไหน

นางภิรมย์ กล่างว่า แต่นอกจากผลกระทบจะไม่ถูกแก้ไขใดๆแล้ว สถานการณ์ในพื้นที่กลับยิ่งเลวร้ายลง เมื่อมีการอนุญาตให้บริษัทเหมืองแร่เปลี่ยนแปลงแผนผังโครงการทำเหมือง ด้วยการใช้ระเบิดในการขุดเจาะอุโมงค์ใหม่ โดยไม่สนใจที่จะหาสาเหตุของผลกระทบที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติการคุกคามนักปกป้องสิทธิฯด้วยการฟ้องคดีปิดปาก หวังผลให้กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯหวาดกลัวและหยุดกระบวนการเคลื่อนไหว โดยหลังจากนั้นเพียงไม่นานตัวละครลับก็ได้ปรากฏตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2567 บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ได้กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด 

นางภิรมย์ กล่าวต่อว่า การเข้ามาของนายทุนใหญ่ภาพลักษณ์สีเขียว ทำให้กระบวนการตรวจสอบในพื้นที่ถูกแช่แข็งทันที ข้อมูลถูกปกปิด เกิดการประสานงานทั้งหน่วยงานของรัฐ และองค์กรอิสระบางองค์กรจนทำให้กระบวนการตรวจสอบถูกบิดเบือนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทุนใหญ่สามารถเดินหน้าโครงการต่อไปได้ โดยไม่ต้องฟังเสียงของผู้คัดค้าน ทั้งที่การใช้ระเบิดดังกล่าวอยู่ใจกลางพื้นที่เกษตรกรรม อยู่ใกล้พื้นที่ชุมชน และมีความเสี่ยงสูงว่าจะเกิดปัญหากับระบบน้ำใต้ดิน และอุโมงค์แนวเอียงเดิมที่มีปัญหาแต่สิ่งที่น่ากังวลใจยังไม่หมดเพียงเท่านั้น 

“เมื่อปรากฏคนงานจีนจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่เพื่อเข้าทำงานในบริษัทเหมืองแร่ มีการกันเขตเฉพาะคนจีนห้ามคนไทยเข้า และเมื่อเข้าไปค้นข้อมูลของบริษัทฯที่ประกาศรับคนงาน ก็พบข้อสงสัยมากมาย จนเกรงว่าการขุดอุโมงค์ใหม่รอบนี้ คุณภาพอาจไม่ต่างกับตึกสตง. และกลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ ตามคำนิยามที่คุณ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้กล่าวไว้”น.ส.จน

ขณะที่นางเดือนรุ่ง มูลขุนทด ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนกบุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดอ่านแถลงการณ์ต่อเนื่องโดยระบุว่า เราจะไม่ยอมให้บ้านเราต้องเป็น “ตึก สตง.2” เป็นอันขาด จึงขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมติดตามและให้กำลังใจกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ในการร่วมกันแสดงพลังในการบล็อกพื้นที่ “ก่อนบ้านจะบึ้ม เราจะบล็อก” เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัทเหมืองแร่โปแตชภายใต้การควบคุมของบริษัทเอกชน ต้องยุติการเดินหน้าขุดเจาะอุโมงค์ใหม่ด้วยการใช้ระเบิด รับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น ตรวจสอบหาสาเหตุของผลกระทบอย่างโปร่งใสและให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วม และต้องแก้ไขปัญหาผลกระทบอย่างจริงจังไม่ใช่แค่ CSR

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน นักปกป้องสิทธิฯกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ได้รวมตัวกันจัดคาราวานรถแห่พร้อมทั้งเดินเท้าเคาะประตูบ้านในชุมชนรวมทั้งแจกใบปลิวเพื่อเชิญชวนชาวบ้านในพื้นที่และหมู่บ้านใกล้เคียงมาร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 6 พ.ค. นี้ โดยประกาศรวมพลที่ วัดหนองไทร ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป.