เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 11 พ.ย. ตามเวลาประเทศไทย (หรือเท่ากับเวลา 13.00 น. ของกรุงปารีส) ณ Grande Halle de la Villette กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงผ่านการบันทึกเทปถ้อยแถลงล่วงหน้า ในพิธีเปิดการประชุม Paris Peace Forum ครั้งที่ 4 ภายใต้หัวข้อ “Mind the gaps: Improving global governance after COVID-19” ซึ่งเน้นการหารือถึงการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับช่องว่างในประเด็นต่าง ๆ ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 เช่น ด้านสาธารณสุข สังคม สิ่งแวดล้อม โลกดิจิทัล และเศรษฐกิจ

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางสุขภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของทั่วโลก รวมทั้งยังได้ขยายช่องว่างความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ จึงเสนอให้ปิดช่องว่างดังกล่าวโดยการสร้างระบบธรรมาภิบาลโลกที่เข้มแข็งภายหลังยุคโควิด-19 ซึ่งช่องว่างที่ควรแก้ไขเป็นลำดับแรกคือ ช่องว่างของระบบการเตรียมความพร้อมและการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ต้องเสริมสร้างให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี โดยไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

นายกรัฐมนตรี เห็นว่า ทุกประเทศและทุกภาคส่วนควรยึดมั่นในความร่วมมือภายใต้กลไกพหุภาคีและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ธรรมาภิบาลโลกที่เข้มแข็งจะช่วยส่งเสริมระบบสาธารณสุขของทุกประเทศให้มีภูมิต้านทาน เท่าเทียม และเป็นธรรม จึงขอเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1. ผลักดันให้วัคซีนและยารักษาโควิด-19 เป็นสินค้าสาธารณะของโลก 2. สนับสนุนให้ทุกประเทศบรรลุเป้าหมายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเร่งรัดการเจรจาจัดทำตราสารระหว่างประเทศว่าด้วยโรคระบาด และ 3. ส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจ BCG ให้เป็นโมเดลเศรษฐกิจใหม่ เพื่อเชื่อมโยงประเด็นความมั่นคงของมนุษย์กับการฟื้นฟูที่ยั่งยืน สมดุล และครอบคลุม

สำหรับ การประชุม Paris Peace Forum เป็นการจัดการประชุมขององค์กรอิสระที่จัดขึ้นต่อเนื่องทุกปี นับตั้งแต่ปี 2561 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและภาคส่วนต่าง ๆ ของนานาประเทศในการเสริมสร้างสันติภาพโลกและระบอบพหุภาคีนิยม โดยในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 พ.ย. 2564 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ในรูปแบบผสมผสาน ทั้งการเข้าร่วมในสถานที่จริงและผ่านระบบการประชุมทางไกล