สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียออกแถลงการณ์ ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ หรือระหว่างเดือน ม.ค.-มี.ค. ที่ผ่านมา ขยายตัว 4.87% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี


สถิติดังกล่าวถือว่าชะลอตัวมากที่สุด นับตั้งแต่ไตรมาสที่สามของปี 2564 ซึ่งในเวลานั้น เป็นช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19
ขณะที่หากเทียบแบบไตรมาสต่อไตรมาส กับไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว หรือระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค. ที่ผ่านมา ถือว่าจีดีพีของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หดตัว 0.98%


ทั้งนี้ พล.ท.ปราโบโว ซูเบียนโต ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ใช้นโยบายประชานิยมหลายอย่าง นับตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว หนึ่งในนั้นคือ โครงการอาหารกลางวันฟรีในโรงเรียนทั่วประเทศ


อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์และวิจารณ์ว่า โครงการนี้สร้างภาระและความไม่สมดุลทางการคลังในระยะยาว เนื่องจากทำให้ต้องตัดงบประมาณจากโครงการอื่น ซึ่งมีความจำเป็นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน มาใช้อุดหนุนโครงการอาหารกลางวันฟรีในสถานศึกษา

อนึ่ง รัฐบาลอินโดนีเซียกำหนดเป้าหมาย ให้จีดีพีของประเทศขยายตัว 5.2% ในปีนี้ และ 8% ภายในปี 2572 ทว่าต้องเผชิญและฝ่าฟันความท้าทายอย่างหนัก จากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะนโยบานการค้าของสหรัฐ.

เครดิตภาพ : AFP