สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ว่า กองทัพปากีสถานออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับความสำเร็จของการทดสอบขีปนาวุธนำวิถี “ฟาตาห์” ซึ่งมีพิสัยทำการประมาณ 120 กิโลเมตร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เกิดขึ้นหลังการทดสอบขีปนาวุธนำวิถี “อับดาลี” ซึ่งมีพิสัยทำการประมาณ 450 กิโลเมตร เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


ขณะที่นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ผู้นำปากีสถาน แสดงความชื่นชม “ความพร้อมขั้นสูงสุดของกองทัพ ในการปกป้องความมั่นคงของชาติ” และความสำเร็จของการทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำ “ความแข็งแกร่งด้านศักยภาพการป้องกันประเทศของปากีสถาน”


ด้านอินเดียยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อการทดสอบขีปนาวุธทั้งสองครั้งของปากีสถาน ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าว ว่านายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย เรียกประชุมฉุกเฉินทหารระดับสูงในกองทัพ และหน่วยงานด้านความมั่นคงอีกหลายแห่ง เพื่อ “มอบอำนาจอย่างอิสระ” ให้แก่กองทัพ ในการตอบโต้การโจมตีทางทหารของปากีสถาน


ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับปากีสถานตึงเครียดครั้งใหม่ หลังเกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธกราดยิงกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่เมืองพาฮาลแกม ในรัฐชัมมูและกัศมีร์ หรือภูมิภาคแคชเมียร์ภายใต้อธิปไตยของอินเดีย เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีบุคคลหรือกลุ่มใดออกมาแสดงตัวว่าเกี่ยวข้อง


อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอินเดียกล่าวว่า เป็นฝีมือของกลุ่มลาชการ์-อี-ไทบา ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในปากีสถาน และเป็นองค์กรก่อการร้ายในบัญชีดำของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แต่รัฐบาลปากีสถานยืนกรานปฏิเสธ และเรียกร้องการสอบสวนระดับนานาชาติ.

เครดิตภาพ : AFP