จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 วินิจฉัยชี้ขาด แกนนำม็อบราษฎร 3 คนประกอบด้วย 1.นายอานนท์ นำภา 2.นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์” และ 3.น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” เข้าข่ายใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พ.ย. โลกออนไลน์ได้เกิดกระแสแชร์โพสต์ของ “อานนท์ นำภา” ภายหลังจากที่ได้เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “จดหมายเปิดผนึกถึง บรรดาพี่น้องกบฏทั้งหลาย” วันนี้พวกเขาได้ใส่ร้ายและพิพากษาให้เราเป็นกบฏโดยสมบูรณ์แบบแล้ว เท่ากับขณะนี้มีกบฏเกิดขึ้นในประเทศไทยนับแสนคน ทั้งที่ความจริงพวกเราเพียงแค่อยากเปลี่ยนแปลงสังคมให้มีเสรีภาพ มีความเสมอภาค และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น

ทุกข้อเสนอล้วนแต่มุ่งหมายให้ประเทศและสถาบันอยู่ในร่องในรอย ปกครองด้วยรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย หากจะเรียกเราว่าเป็น ”กบฏ” ก็คงเป็นเพราะเราต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ถูกสถาปนาขึ้นมาใหม่ คือ ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ซ่อนรูป กลับไปเป็นระบอบประชาธิปไตยมีสถาบันกษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญหรือที่เราเรียกกันใหม่ว่า ”ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข”

ความจริงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริงหลายอย่าง ซึ่งคงมีนักวิชาการออกมาแสดงความคิดเห็นต่อไป และหากเกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆกับประเทศนี้ ก็ถือว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นส่วนหนึ่งของเชื้อไฟที่ทำให้เกิดขึ้น

“ผมภูมิใจที่ได้ร่วมต่อสู้กับพี่น้องทุกคนตั้งแต่วันแรกๆจนถึงวันที่ผมอยู่อยู่ในคุก ความตั้งใจเดิมเป็นเช่นไรก็ยังคงเป็นเช่นนั้นและหากมีผู้ใดบังอาจจะหมุนเข็มนาฬิกาให้ประเทศไทยกลับไปปกครองด้วยระบอบที่ผู้หนึ่งผู้ใดมีสิทธิขาดในการปกครอง ไม่ฟังเสียงของราษฎร ริดรอนสิทธิ เสรีภาพ ผมเองยินดีประกาศตนเป็นกบฏต่อระบอบนั้น ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @อานนท์ นำภา