สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ว่ากระทรวงการต่างประเทศอินเดียออกแถลงการณ์ ว่าปากีสถานเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ที่มีสหรัฐเป็นคนกลาง ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศปากีสถานออกแถลงการณ์ในเวลาเดียวกัน กล่าวหาอินเดียกลับมาเปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดน


ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศผ่านแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียล ว่า หลังการเจรจาอย่างยาวนาน โดยมีสหรัฐเป็นคนกลาง อินเดียและปากีสถาน “เห็นชอบตกลงหยุดยิงทันที” ขณะเดียวกัน ทรัมป์ชื่นชม “สามัญสำนึกและความเฉลียวฉลาด” ของทั้งสองประเทศ


ทั้งนี้ อินเดียและปากีสถานปฏิบัติการทางทหารข้ามพรมแดนใส่กัน ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีทั้งการส่งเครื่องบินรบเข้าไปปฏิบัติการในดินแดนของอีกฝ่าย การยิงปืนใหญ่ และการใช้อากาศยานไร้คนขับ ( โดรน ) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันแล้วมากกว่า 60 ราย


สำหรับชนวนเหตุของความขัดแย้งรอบล่าสุด มาจากเหตุกราดยิงที่เมืองพาฮาลแกม ในรัฐชัมมูร์และกัศมีร์ ซึ่งเป็นภูมิภาคแคชเมียร์ภายใต้อธิปไตยของอินเดีย เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย หลังเกิดเหตุ อินเดียกล่าวว่า กลุ่มลาชการ์-อี-ไทบา ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธในปากีสถาน และอยู่ในบัญชีดำองค์กรก่อการร้ายของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เป็นผู้ลงมือ ซึ่งรัฐบาลอิสลามาบัดปฏิเสธ


ด้านนายมาร์โก รูบิโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้อง “การติดต่อสื่อสาร” ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ขณะที่นายชาฟกัต อาลี ข่าน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน กล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารของอินเดีย กำลังทำให้อินเดียและปากีสถาน ซึ่งเป็นสองประเทศในเอเชียใต้ที่มีอาวุธนิวเคลียร์ เข้าใกล้สงครามมากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ.

เครดิตภาพ : AFP