อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นว่ามี สส.ชลบุรี คือ “สส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์” สส.ปชน.ชลบุรี เขต 6 จะไปร่วงานกับพรรคกล้าธรรม เพราะปัญหาส่วนตัวที่ทัศนคติเข้ากับพรรคและ สส.พรรคไม่ได้ เคยยื่นหารือบางประเด็นในสภา แต่ผู้ใหญ่พรรคกลับว่าไม่เหมาะสม ถึงกับต้องคุยห้องเย็นกัน จบที่ สส.คนดังกล่าว ทำหนังสือขอยุติบทบาทกับพรรค
ยังมีข่าวอีกว่า จะมี สส.ปชน.อีก 2-3 รายที่จะไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น ซึ่งข่าวว่า “เฮียเฮ้ง”สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ( รทสช. ) ก็เชิญ สส.กฤษฎิ์ไปร่วมงานเพื่อทำพื้นที่ชลบุรี นี่ก็แสดงให้เห็นว่า “แต่ละพรรคต่างเล่นพลังดูดเพื่อไปเสริมทัพตัว” และพรรคขั้วรัฐบาลเริ่มวางแผนชิงพื้นที่ภาคตะวันออกจาก ปชน.
ภาคตะวันออกพรรค ปชน.มี สส. 17 คน จากจำนวน 29 เก้าอี้ เป็น สส.ฉะเชิงเทรา 1 คน สส.ชลบุรี 7 คน ชนะยกจังหวัดคือ ระยอง 5 คน จันทบุรี 3 คน และตราด 1 คน ที่ชลบุรี พรรคเพื่อไทย ยกให้พรรค รทสช. และพรรคกล้าธรรมจับมือยึดพื้นที่ ที่ระยอง ขอให้บ้านใหญ่พรรคประชาธิปัตย์เจาะให้ได้ ส่วนเพื่อไทยจะขอชิงเก้าอี้ สส.ปากน้ำ สมุทรปราการคืน

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองเช่นนี้กำลังบอกอะไรเรา ? อันดับแรก เท่าที่ดูในการวางแผนตามที่เป็นข่าว เหมือนจงใจเขี่ยพรรคภูมิใจไทยไม่ร่วมรัฐบาลกันอีกในสมัยหน้า ซึ่งก็ไม่เกินความคาดหมายนัก เพราะเรื่องนี้มีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะถึงการทำงานขัดขากัน ความเห็นค้านครั้งสำคัญคือเลขาธิการภูมิใจไทยที่“ทุกคนรู้ว่าลูกใคร”ประกาศไม่เอากาสิโน
และอยู่ๆ ก็มีข่าวออกมาว่า พรรคภูมิใจไทยจะโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งคาดว่า กระแสข่าวมาจากการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) เรียก สว.สอบคดีฮั้วเลือก สว. และเมื่อวันที่ 12 พ.ค.รายงานข่าวจากดีเอสไอแจ้งว่า ก่อนสิ้นเดือนจะเรียกไปถึงผู้อยู่เบื้องหลัง“ไอ้โม่ง” ที่เกี่ยวข้องที่พบจากการสอบด้วย
สว.หลายคนมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับภูมิใจไทย จนถูกเรียกว่า“สว.สีน้ำเงิน” เมื่อถูกเรียกสอบ มีข่าวว่า ทำให้“เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไม่พอใจยิ่งยวด มองว่าเป็นคำสั่ง“นายใหญ่” ไม้ตายจะเป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 69 ที่ถ้าไม่ผ่าน นายกฯ ต้องลาออกรับผิดชอบ แต่ต่อมา โฆษกภูมิใจไทยก็ปฏิเสธ

อาจเป็นไปได้ว่า เมื่อพิจารณาแล้ว การคว่ำกฎหมายงบประมาณสุ่มเสี่ยงให้เสียคะแนนพรรค และถูกคู่ต่อสู้ใช้หาเสียงทำลายได้ ภูมิใจไทยเลยต้องสงวนท่าทีน้ำขุ่นไว้ในน้ำใสไว้นอกก่อน แต่เพื่อไทยก็ต้องไม่ประมาท เดินเกมหาคะแนนเสียงเพิ่ม ว่ากันว่า “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า”ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม คือมือดีลแบบ “คนกันเองช่วยกันได้”
การปล่อยข่าวอะไรจะมีมาเป็นระยะ แม้กระทั่งเรื่องปรับ ครม. ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นราวเดือน มิ.ย. มีกระแสว่า “เพื่อไทยต้องการยึดมหาดไทยคืน” โดยเอากระทรวงเกรดเอไปแลกเปลี่ยน แต่เสี่ยหนูไม่มีทางยอม ขณะที่กล้าธรรมก็วัดใจกัน ไม่ขออะไรเพิ่ม แต่ถ้าเห็นเลข สส. คนจัดโควตาก็ต้องคิด และยิ่งกล้าธรรมจะช่วยสู้ภูมิใจไทยด้วย ก็ทิ้งไม่ได้
สัญญาณการดูด สส.ที่สุดแล้วก็บ่งชี้ถึงความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง “อะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อมีความเคลื่อนไหวมา” ทั้งการปรับ ครม.ซึ่งถ้าเปลี่ยนกระทรวงของพรรคร่วมแบบฟ้าผ่า รัฐบาลก็จะยิ่งสั่นคลอน หรือไม่แน่ว่า หลายฝ่ายวิเคราะห์แล้วว่ารัฐบาลนี้ไม่อยู่ครบเทอม เลยชิง“ตัดสินใจทางการเมือง” ไปเลย ว่าจะ“ย้าย”หรือ“อยู่”หรือ“ไปขั้วไหน”
สงสารก็แต่ประชาชนจะไม่มี สส.ทำงาน ถ้านักการเมืองเล่นเกมกันมากในสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้.