เมื่อเวลา 10.25 น. วันที่ 13 พ.ค. ที่กรุงเบอร์ลิน สหพันธสาธารณรัฐเยอรมนี (ตามเวลาท้องถิ่น) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กับ นาย Boris Pistorius รมว.กลาโหมสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หารือทวิภาคี โดยนายภูมิธรรม กล่าวชื่นชมเยอรมนี ที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม United Nations Peacekeeping Ministerial Meeting ครั้งที่ 6 (UNPKM 2025) และแสดงความยินดีต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของเยอรมนี ภายใต้การนำของ นาย Friedrich Merz พร้อมทั้งยินดีที่ รมว.กห.เยอรมนี ยังคงดำรงตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนถึงเสถียรภาพทางนโยบายด้านกลาโหม
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและเยอรมนี ที่มีมายาวนานถึง 163 ปี และมีการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่เยอรมนีเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยในสหภาพยุโรป และในการประชุม UNPKM 2025 ไทยได้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติการรักษาสันติภาพภายใต้อาณัติของสหประชาชาติ และมุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพไทยให้มีความพร้อมและมาตรฐานสากล
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ไทยยังประสงค์ที่จะแสวงหาความร่วมมือกับเยอรมนี ในการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพ โดยเฉพาะด้านไซเบอร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัย อย่างไรก็ตาม ไทยจึงขอให้เยอรมนีพิจารณาความเป็นไปได้ในการที่ไทย จะเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และเชิญชวนเยอรมนีเข้าร่วมงาน Defense & Security 2025
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ได้ติดตามสิ่งที่เคยสอบถามทางกระทรวงกลาโหมเยอรมนี ว่าสามารถขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำ ที่ทางประเทศไทยได้จัดหาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ โดยทาง รมว.กลาโหมสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้ตอบว่า ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องมาจากการที่สหภาพยุโรป (EU) ได้มีข้อห้ามส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน.