เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีมีข่าวการย้ายพรรคหลายคนในช่วงนี้ ว่า สถานการณ์การเมืองช่วงนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า มีความพยายามหา สส. และหาสมาชิกสำคัญๆ เพื่อประโยชน์ทางด้านการเมือง โดยเฉพาะหากจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อมี สส. มากขึ้น สัดส่วนการเพิ่มรัฐมนตรีก็มากขึ้น โดยส่วนตัวตนก็ถูกถามว่า ไม่คิดย้ายพรรคบ้างหรือ ซึ่งก็ตอบไปว่า ตนทำงานอย่างมีความสุขที่พรรคไทยสร้างไทย ด้วยเหตุผลหลายประการ คือ หัวหน้าพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ท่านเป็นนักต่อสู้ในแนวทางประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนานเป็นเวลากว่า 30 ปี ปัจจุบันท่านก็ยังยืนหยัดในแนวทางนี้อย่างมั่นคง มีความมุ่งมั่นที่อยากเห็นประเทศไทยดีขึ้นกว่านี้ แม้มีอุปสรรคมากมาย ท่านก็ไม่เคยย่อท้อ ยังคงยึดมั่นอุดมการณ์ ไม่ทรยศต่อประชาชน

คณะผู้บริหารพรรค นอกจากมีคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นหลักแล้ว ยังมีนายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองสูง รอบรู้งานการเมือง และงานด้านกฎหมายอย่างมืออาชีพ ตลอดจนมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์หลายคนที่ทำงานกันอย่างเป็นทีม จึงมีความสุขกับงานที่ทำอยู่ 

พรรคไทยสร้างไทย ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และปรับยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน คือ ร่วมกันสร้าง “การเมืองสุจริต” โดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคจะใช้ยุทธศาสตร์ “การเมืองสุจริต” เป็นนโยบายสำคัญในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองที่หมักหมมมาช้านาน โดยจะดำเนินนโยบายควบคู่ไปกับการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง เด็ดขาด และเด็ดเดี่ยว และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าคุณหญิงสุดารัตน์ ไม่เข้มแข็ง คุมลูกพรรคไม่อยู่นั้น ความเห็นดังกล่าวไม่เป็นความจริง แท้จริงแล้วคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นผู้ที่มีความเข็มแข็ง เห็นได้จากการเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มาอย่างยาวนานกว่า 30 ปีดังกล่าว 

นายชวลิต กล่าวว่า นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อบริหารชาติบ้านเมืองอย่างยิ่ง คือ มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่เคยมีมลทินใดๆ ในการบริหารราชการแผ่นดิน, มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์สูง ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และมีคุณธรรม จริยธรรม กำกับทั้งการทำงานและความประพฤติ มีเมตตา กรุณาสูง จนน้องๆ เรียกว่า แม่บ้าง แม่พระบ้าง อย่างไรก็ดี ไม่ว่า แม่ หรือ แม่พระ ก็มีความเด็ดขาด หาก สส. ในสังกัดพรรคกระทำการขัดมติพรรค ไม่ร่วมกิจกรรมใดๆ กับพรรคเลย ทั้งๆ ที่พรรคทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์ กว่าจะได้ สส. มาด้วยความยากลำบาก แต่กลับไม่สนใจกับกิจกรรมใดๆ ของพรรค ซึ่งคณะกรรมการวินัยและจริยธรรมของพรรคได้ประชุมพิจารณาแล้วลงมติว่า สส. เหล่านั้น กระทำการขัดต่อข้อบังคับพรรค พระราชบัญญัติประกอบ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง และขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้นหัวหน้าพรรคไม่ลังเลที่จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาตรวจสอบมาตรฐานจริยธรรมเพื่อลงโทษตัดสิทธิทางการเมือง นับเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ทางการเมืองในการขจัด “งูเห่า” ให้สูญพันธุ์ ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา

นายชวลิต กล่าวว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค เมื่อปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารพรรค สาขาพรรค และสมาชิกพรรคได้รวมพลังที่จะร่วมกันสร้าง “การเมืองสุจริต” ให้กำลังใจพรรค สนับสนุนพรรคให้ยืนหยัดเป็นทางเลือกของประชาชน ซึ่งพรรคก็จะมีการปรับปรุงโครงสร้างของพรรคเพื่อรองรับคนดีมีความรู้ ความสามารถ และมีอุดมการณ์เดียวกันมาร่วมงาน ส่วนกรณีที่มีคนออก ก็มีคนเข้า แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผย พรรคไทยสร้างไทยจะเลือกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน คือ ร่วมกันสร้าง “การเมืองสุจริต” เพื่อนำพาประเทศชาติและประชาชนพ้นจากวังวนของ “การเมืองทุจริต” เพื่อร่วมกันพัฒนาชาติบ้านเมืองให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ ที่สำคัญเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้หมดสิ้นไปในยุคสมัยเรา