เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อชี้เบาะแสต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้สืบสวนหรือไต่สวนการกระทำที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการตกเบ็ดชื้อขายตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ด้วยเงิน 55 ล้านบาท พร้อมเงินเดือนเพิ่มอีกเดือนละ 250,000 บาท รถตู้ยี่ห้อหรูอีก 1 คัน จริงหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นที่ผ่านมา มี สส. พรรคหนึ่งขึ้นปราศรัยหาเสียงว่า มีผู้แทนของพรรคการเมืองหนึ่ง มายื่นข้อเสนอให้เงินและทรัพย์สินดังกล่าวแก่ตน เพื่อให้ย้ายไปอยู่ในสังกัดพรรคการเมืองดังกล่าว และต่อมา สส. ของพรรคการเมืองที่ปราศรัยดังกล่าว ได้ออกมาประกาศและทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคของตน เพื่อขอยุติบทบาทในพรรคนั้น และแสดงเจตนารมณ์ที่จะขอย้ายไปอยู่อีกพรรคการเมืองหนึ่ง โดยอ้างอุดมการณ์และการทำงานไปด้วยกันไม่ได้ ซึ่งกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันของประชาชนอย่างกว้างขวาง กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เลวร้ายทางการเมือง สังคมไทยไม่ควรนิ่งเฉยหรือยอมรับพฤติการณ์ หรือการกระทำดังกล่าว เพราะอาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเข้าข่ายกระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขัดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 30 และมาตรา 31 ที่ระบุห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม เพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิก หรือห้ามมิให้ผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด จากพรรคการเมืองหรือจากผู้ใดเพื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก
ด้วยเหตุดังกล่าว เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวาง สังคมไทยวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก นายทะเบียนพรรคการเมืองและ กกต. จะนิ่งเฉยไม่รู้สี่รู้แปด ไม่ได้ เพราะตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 6 และ 7 กำหนดให้เลขาธิการ กกต. เป็นนายทะเบียน มีหน้าที่ และอำนาจตาม พ.ร.ป. ดังกล่าวภายใต้การกำกับและควบคุมของ กกต. และมีอำนาจเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้คําชี้แจงหรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มาเพื่อประกอบการพิจารณาได้ เพื่อทำความจริงให้ประจักษ์ ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมชี้ช่องข้อกฎหมายต่างๆ มาชี้เบาะแสให้นายทะเบียนพรรคการเมือง และ กกต. ได้ดำเนินการสอบสวนและไต่สวน เพื่อพิจารณาลงโทษพรรคการเมือง และหรือ สส.งูเห่าที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวตามกฎหมายต่อไป.