สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ว่า ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับสี่ของโลก พยายามเจรจาเพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาษีเชิงลงโทษของสหรัฐ และสลัดภาวะเศรษฐกิจซบเซาที่สร้างความลำบากให้กับประเทศมาเป็นเวลานาน

ตัวเลขเบื้องต้นสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่น แบบเทียบไตรมาสต่อไตรมาส แย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะหดตัว 0.1% ซึ่งถือเป็นการชะลอตัวจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ 0.6% ในเดือน ต.ค.-ธ.ค. ปีที่แล้ว ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจหดตัวครั้งก่อนหน้า เกิดขึ้นในเดือน ม.ค-มี.ค. 2567 โดยอยู่ที่ 0.4%

ทั้งนี้ การส่งออก ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ลดลง 0.6% ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.9% ซึ่งส่งผลกระทบต่อจีดีพีโดยรวม และเมื่อพิจารณาเป็นรายปี จีดีพีของญี่ปุ่นหดตัว 0.7% ในไตรมาสแรก

ก่อนการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว นักวิเคราะห์หลายคนเตือนว่า ญี่ปุ่นจะเผชิญกับอุปสรรคที่ยากลำบาก เนื่องจากภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ และคงอัตราดอกเบี้ยไว้ พร้อมกับเตือนว่า ภาษีการค้ากำลังกระตุ้นความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ตลอดจนคาดว่าจีดีพีของญี่ปุ่น จะเพิ่มขึ้น 0.5% ในปีงบประมาณนี้ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ตัวเลขข้างต้น ลดลงจากการประมาณการครั้งก่อนหน้าที่ 1.1%.

เครดิตภาพ : AFP