เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นางชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย ประธานอนุกรรมาธิการด้านการคลัง วุฒิสภา เปิดเผยว่า ตนและคณะอนุกรรมาธิการด้านการคลัง ได้ร่วมประชุมหารือและคาดการณ์เกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 โดยคาดว่าจะขาดดุลเกือบ 9 แสนล้านบาท เพราะรัฐเก็บรายได้เพียง 2.92 ล้านล้านบาท แต่รายจ่าย 3.78 ล้านล้านบาท รายได้ไม่ถึงเป้า แต่ใช้จ่ายเท่าเดิม ทำให้รัฐต้องกู้หนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่การเติบโตของจีดีพีลดลงจากแผนทุกปี และปีนี้กระทรวงการคลังประกาศลดจากเดิมร้อยละ 3 เหลือเพียงร้อยละ 2.1 เงินถูกใช้ไปกับโครงการที่ไม่ได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั้งในและต่างประเทศ

ประธานคณะอนุกรรมาธิการการคลัง วุฒิสภา กล่าวว่า จากการคาดการณ์ดังกล่าว คณะอนุกรรมาธิการฯ จึงมีเรียกร้องเสนอให้รัฐบาลนำไปพิจารณาดำเนินการ เพื่อเป็นแนวทางการพิจารณางบประมาณโครงการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ 6 ข้อ ประกอบด้วย 1. ให้รัฐบาล “ชะลอ-ลด-เลิก” งบลงทุนที่ไม่จำเป็นไม่เร่งด่วน รอให้เศรษฐกิจฟื้นก่อน จึงเสนอใหม่ 2. Shared Asset หรือจัดระบบฐานข้อมูลทรัพย์สินอาคารของรัฐส่วนกลาง เพื่อนำอาคารที่ไม่ได้ใช้งาน ไปให้หน่วยงานที่มีความจำเป็น ใช้งานต่อไป 3. ตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ เพื่อช่วยหน่วยงานเจ้าของโครงการพิจารณาอนุมัติ กำกับ และตรวจสอบ 4. จัดสรรให้เอสเอ็มอีไทยได้รับงานโครงการอาคารใหญ่ อย่างน้อย 30% ของมูลค่าโครงการ และต้องว่าจ้างงานคนไทย  5. ให้หน่วยงานรัฐและองค์กรอิสระ ที่มีเงินเกิน 100 ล้านบาท ทั้งงบประมาณและเงินรายได้ขององค์กร ต้องส่งคืนคลัง และ 6. เปิดให้ภาคประชาสังคมและภาคประชาชนมีส่วนร่วมในโครงการ.