สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ว่า นายมาร์ติน คานซ์เลอร์ นักวิเคราะห์ภาพยนตร์จากอีเอโอ กล่าวในการแถลงข่าวนอกรอบเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติคานส์ ครั้งที่ 78 ว่า ตั๋วภาพยนตร์ถูกขายทั่วโลกรวม 4,800 ล้านใบ เมื่อปี 2567 ซึ่งสร้างรายได้ประมาณ 28,000 ล้านยูโร (ราว 1.04 ล้านล้านบาท) แต่ตัวเลขข้างต้นน้อยกว่าจำนวนตั๋วในปี 2566 ราว 500 ล้านใบ
ปัจจุบัน อัตราการเข้าโรงภาพยนตร์อยู่ที่ 68% ของระดับในปี 2562 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายก่อนเกิดการระบาดใหญ่ เมื่อเทียบกับมากกว่า 70% ในปี 2566
Global cinema attendance drops in 2024
— HUM News English (@humnews_english) May 17, 2025
Read more: https://t.co/cwUbq3j9c5 pic.twitter.com/Z3GHTCSEA5
ท่ามกลางสถานการณ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ซบเซา ยุโรปกลับมีตัวเลขที่ดีกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก โดยมีอัตราการเข้าโรงภาพยนตร์ 75% ของระดับในปี 2562 และยอดขายตั๋วหนังลดลงเพียง 1.7% เมื่อปีที่แล้ว แต่ในทางตรงกันข้าม อัตราการเข้าโรงภาพยนตร์ของจีน ร่วงลงมากถึง 22%
ด้านนายมานูเอล ฟิโอโรนี นักวิเคราะห์ของอีเอโอ กล่าวว่า การผลิตภาพยนตร์ในสัดส่วน 81% เชื่อมโยงกับสามประเทศ ได้แก่ สหรัฐ จีน และอินเดีย
“อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ที่ผลิตในจีนและอินเดีย มุ่งจำหน่ายเฉพาะตลาดภายในประเทศเท่านั้น ขณะที่ภาพยนตร์อเมริกันถูกส่งออก และข้ามพรมแดนได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากเครือข่ายจัดจำหน่าย และผู้ชมภาพยนตร์ในต่างประเทศ” ฟิโอโรนี กล่าวทิ้งท้าย.
เครดิตภาพ : AFP