เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ความคืบหน้าคดีอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาทไปเล่นพนันออนไลน์ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังคงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน และสอบปากคำพยานผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยพบความเชื่อมโยงของเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาส กับ น.ส.อรัญญาวรรณ อย่างชัดเจน รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งการโอนจากบัญชีส่วนตัวของนายแย้มโดยตรง 80 ล้านบาท การใช้บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ โอนและนำเงินสดไปฝากกว่า 200 ล้านบาท รวมถึงบัญชีบุคคลที่สามอีก 60 ล้านบาท
นอกจากนี้ การตรวจสอบบัญชีภายในวัดไร่ขิงยังพบความผิดปกติใน 7 บัญชีจากกว่า 20 บัญชีที่เปิดในลักษณะเฉพาะกิจ ซึ่งเชื่อว่าเป็นช่องทางในการยักยอกเงินวัด ขณะที่การสอบปากคำอดีตทหารเรือคนสนิทของนายแย้ม ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถยนต์หลายคันที่นายแย้มใช้งาน ยังไม่พบความเชื่อมโยงถึงที่มาของเงินซื้อรถ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสอบปากคำพยานใกล้ชิดอดีตเจ้าอาวาสเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่าพยานบางรายให้การไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏ โดยจะยอมรับเมื่อเจ้าหน้าที่นำหลักฐานมาแสดง และบางรายที่เคยให้การเบื้องต้นว่าอดีตเจ้าอาวาสสั่งให้เบิกเงินวัดไปโอนให้ น.ส.อรัญญาวรรณ เพื่อเล่นพนัน กลับคำให้การในชั้นสอบสวนอย่างเป็นทางการว่าเป็นเพียงการกู้ยืมเงินเท่านั้น
“บิ๊กเต่า”เผยยังไม่ชัด เส้นเงินวัดไร่ขิงโยง “เตย-แฟนหนุ่ม” จ่อเรียกสอบปากคำทั้ง2คนซ้ำ…
เจ้าหน้าที่ยังตั้งข้อสังเกตถึงวัตถุพยานบางส่วนที่มีลักษณะคล้ายถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะเอกสารสัญญาการกู้ยืมเงินระหว่าง น.ส.อรัญญาวรรณ กับมูลนิธิวัด และสลิปโอนเงินบางรายการ ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหาที่พยายามเบี่ยงเบนประเด็นว่าเป็นการกู้ยืมเงิน ไม่ใช่การเล่นพนันออนไลน์ แม้ว่าการนำเงินวัดไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ก็ถือเป็นความผิดอยู่ดี แต่เจ้าหน้าที่มองว่าเป็นการปูทางเพื่อต่อสู้คดีในภายหลัง
สอดคล้องกับพฤติกรรมของ น.ส.อรัญญาวรรณ ที่เคยถูกจับกุมในคดีเว็บพนัน “LAGALAXY911” เมื่อปลายปี 2567 ซึ่งขณะนั้นเจ้าตัวก็อ้างว่าเป็นเพียงผู้เล่น ไม่ใช่ผู้จัด และเงินที่ได้รับโอนมาเป็นการกู้ยืมเพื่อลงทุน เช่นเดียวกับช่วงที่นายแย้มทราบข่าวการจับกุม น.ส.อรัญญาวรรณ ก็รีบสั่งให้ “อดีตพระเอกพจน์” ลาสิกขาและหลบหนี เพื่อตัดตอนการสาวถึงตนเอง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีมั่นใจในพยานหลักฐาน โดยเฉพาะเส้นทางการเงินที่พบการโอนเงินจากบัญชีวัด ผ่านบัญชีนายแย้ม ไปยังบัญชี น.ส.อรัญญาวรรณ ก่อนจะโอนไปยังเครือข่ายเว็บพนันถึง 11 ครั้ง รวมกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งมีช่วงเวลาและจำนวนเงินที่สอดคล้องกัน นอกจากนี้ยังมีคลิปเสียงการทวงถามเงินพนัน และคำให้การพยานบางรายที่เคยได้ยินอดีตเจ้าอาวาสพูดคุยเรื่องผลได้เสียจากการพนัน ทำให้เชื่อว่านายแย้มน่าจะเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันจริง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้มองว่าการติดพนันเป็นสาเหตุหลักของการยักยอกเงินจำนวนมหาศาลดังกล่าว โดยพบข้อมูลสืบสวนที่น่าตกใจว่า นายแย้ม และ น.ส.อรัญญาวรรณ มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนมาตั้งแต่ปี 2563 และมีการพูดคุยในลักษณะลามกอนาจารผ่านวิดีโอคอลอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา น.ส.อรัญญาวรรณ ได้โทรศัพท์มาขอเงินจำนวนมากจากนายแย้ม โดยอ้างเรื่องหนี้สินจากการลงทุน แต่ภายหลังพบว่าเป็นเรื่องไม่จริง ทำให้กลุ่มลูกศิษย์และพระคนสนิทให้นำโทรศัพท์มือถือที่มีคลิปฉาวมาทำลายทิ้ง และขอให้ยุติความสัมพันธ์ทั้งหมด