เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่รัฐสภา นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการจริยธรรมฯ ครั้งที่ 1 ว่า การประชุมในวันนี้ เพื่อวางกรอบการทำงานคณะกรรมการจริยธรรมฯ โดยมีการเลือกให้ตนเป็นเลขาฯ คณะกรรมการจริยธรรมฯ โดยขณะนี้มีเรื่องจากผู้ร้องเรียงอยู่ 70 เรื่อง และได้ตั้งคณะอนุกรรมการ 2 คณะ ซึ่งจะทำการกลั่นกรองพิจารณาเรื่องร้องเรียน และส่งผลสอบสวน เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการใหญ่ หากวางกรอบให้คณะกรรมการทำงานเลย อาจจะขาดความรอบคอบ เพราะจะต้องแสวงหาข้อเท็จจริงตามข้อกฎหมาย เพื่อชั่งน้ำหนักว่าจะรับหรือไม่รับ หรือจะมีทิศทางอย่างไร จะต้องมีการสอบสวน เพื่อนำข้อเสนอเบื้องต้นนำเสนอต่อคณะกรรมการจริยธรรมฯ ต่อไป และฝ่ายเลขาฯ ก็จะนำเสนอเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง ย้ำว่า มีการวางกรอบการทำงานไว้ชัดเจน แต่ไม่ได้มอบหมายให้คณะใดคณะหนึ่งทำงานด้านใดด้านหนึ่ง ส่วนกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นคนเดียวกัน จะต้องนำมารวมอยู่ในคณะนั้น เป็นธรรมดา เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และซ้ำซ้อนกัน

เมื่อถามว่าจะเสร็จทันภายในสภาชุดนี้หรือไม่ และจะมีการเรียงลำดับการพิจารณาอย่างไร นายประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนที่หนึ่งคือในกรณีที่กรรมการจริยธรรมฯ อาจจะไม่รับพิจารณาหรือยุติ ตนคงประเมินไม่ได้ว่า จะเสร็จทันหรือไม่ แต่มั่นใจว่าจะเสร็จทัน

เมื่อถามถึงข้อสังเกตการให้ความช่วยเหลือกันเองนั้น นายประยุทธ์ ยืนยันว่า ไม่มี ไม่มีลูบหน้าปะจมูก ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ส่วนกรณีมีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือหน่วยงานอื่นนั้น แต่ละเรื่องจะมีการดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ว่าจะทั้งทางแพ่งหรืออาญา

สำหรับเหตุผลที่เพิ่งจะมีการประชุมครั้งแรกในวันนี้นั้น นายประยุทธ์ กล่าวว่า ตามกฎหมายต้องมีบุคลากรครบ จึงจะประชุมได้ จึงเป็นปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม เราจะเร่งดำเนินการ.