เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย อดีต สส.นครพนม 5 สมัย (2544-2566) และอดีตนายอำเภอเมืองนครพนม (2541-2542) กล่าวว่า พื้นที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำหนองญาติ ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่นักท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยเฉพาะนักเรียน นิสิต นักศึกษา ควรมาศึกษาประวัติศาสตร์ว่ามีบุคคลสำคัญซึ่งเป็นประมุขของ 2 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย และประเทศเวียดนาม มีประวัติศาสตร์สำคัญ บริเวณริมอ่างเก็บน้ำหนองญาติ
ซึ่งเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2505 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะจอมทัพไทย พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมบำรุงขวัญทหารชายแดน ณ จังหวัดนครพนม ในห้วงเวลาที่สถานการณ์โลกขณะนั้นกำลังตึงเครียดด้วยภาวะสงครามเย็น ระหว่างโลกค่ายเสรีประชาธิปไตย กับโลกค่ายคอมมิวนิสต์ หลังเสร็จพระราชกรณียกิจดังกล่าว ทั้งสองพระองค์ทรงประทับแรมภายในกระโจมที่กองบัญชาการทหารสูงสุดสร้างถวาย ณ พื้นที่ทรงงาน บริเวณริมอ่างเก็บน้ำหนองญาติด้านใต้ ต่อมาในปี 2541 นายชวลิต นายอำเภอเมืองนครพนม ในขณะนั้นได้หมุดหมายพื้นที่ดังกล่าว เพื่อจัดทำโครงการหอเฉลิมพระเกียรติพระราชวงศ์จักรี จังหวัดนครพนม และโครงการสำเร็จ ได้รับงบประมาณก่อสร้างในปี 2549
ปัจจุบันหอเฉลิมพระเกียรติพระราชวงศ์จักรี จังหวัดนครพนม เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และจังหวัดนครพนมได้ใช้เป็นสถานที่จัดงานรัฐพิธี “วันจักรี” ทุกวันที่ 6 เม.ย. ของทุกปี และงาน “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” ทุกวันที่ 14 พ.ย. ของทุกปีเช่นกัน ซึ่งหอเฉลิมพระเกียรติ มีห้องฉายภาพยนตร์ มีประวัติ มีภาพถ่ายที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชกรณียกิจ ณ จังหวัดนครพนม ถึง 17 ครั้ง ทั้งที่เป็นจังหวัดชายแดน และทุรกันดาร
นายชวลิต กล่าวว่า นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของพระราชกรณียกิจทั้งหมดในระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประเทศไทย คือ 70 ปี และเป็นอันดับ 3 ของโลก พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญในประเทศไทยและในโลก เกี่ยวกับพระราชดำริในเรื่อง “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” โดยนายโคฟี แอนนัน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์แด่พระองค์ ในระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์ ทรงมีพระราชกรณียกิจที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ประชาชนชาวไทยต่างเคารพเทิดทูนพระองค์เป็น “พ่อของแผ่นดิน” มี “วันพ่อแห่งชาติ” ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของพระองค์ที่คนไทยรู้จักกันดี คือ วันที่ 5 ธ.ค. ของทุกปี

ส่วนรายละเอียดประวัติความเป็นมาโครงการหอเฉลิมพระเกียรติพระราชวงศ์จักรี จังหวัดนครพนม ระหว่างปี พ.ศ. 2471-2472 ท่านประธานโฮจิมินห์ อดีตประธานาธิบดีของประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้หลบภัยสงครามในบ้านเมืองของท่าน เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารประเทศไทย ณ บ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม เพื่อมุ่งหวังกลับไปกอบกู้บ้านเมืองของท่านจากนักล่าอาณานิคมในสมัยนั้น และท่านก็สามารถกลับไปกอบกู้บ้านเมืองของท่านได้เป็นผลสำเร็จ ท่านประธานโฮจิมินห์จึงได้รับความเคารพ ศรัทธาจากชาวเวียดนาม ยกย่องให้เป็น “บิดาของประเทศ” และเป็น “รัฐบุรุษ” รวมทั้งชาวโลกต่างยกย่องให้เป็น “รัฐบุรุษของโลก” ด้วย
ในวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันที่ระลึกครบรอบ 135 ปี วันคล้ายวันเกิดท่านประธานโฮจิมินห์ พี่น้องชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในจังหวัดนครพนม และตัวแทนสมาคมคนไทยเชื้อสายเวียดนามทุกจังหวัด ได้จัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตร และพิธีวางพวงดอกไม้เคารพท่านประธานโฮจิมินห์ โดยมีเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยและเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำ สปป.ลาว เป็นตัวแทนฝ่ายเวียดนาม และมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นตัวแทนฝ่ายไทย เข้าร่วมพิธี
นายชวลิต กล่าวว่า เชิญชวนนักท่องเที่ยวที่สนใจประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวทั่วไป ตลอดจนนักเรียน นิสิต นักศึกษา มาชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ทั้งสองแห่งดังกล่าว เพื่อปลูกฝังความรักชาติ รักแผ่นดิน ให้กับอนุชนรุ่นหลังสืบไป สรุปคือ “ประวัติศาสตร์” เป็นพลังในการสร้างชาติ รักษาแผ่นดิน คนไทยเรา โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา จำเป็นต้องมีวิชาประวัติศาสตร์สำหรับศึกษาเรียนรู้ทุกระดับ ขณะเดียวกัน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม และจังหวัดนครพนม ควรประชาสัมพันธ์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น