สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีมติเมื่อช่วงรุ่งสางของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หลังอภิปรายกันมาราธอนข้ามวันข้ามคืน รับรองร่างกฎหมาย “ยิ่งใหญ่และสวยงาม” ด้วยเสียงข้างมากอย่างเฉียดฉิว 215 ต่อ 214 เสียง
อนึ่ง ร่างกฎหมายดังกล่าวยังคงต้องผ่านการอภิปรายและลงมติโดยวุฒิสภา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 เดือน และค่อนข้างเป็นไปได้มาก ว่าจะมีการปรับแก้เนื้อหาหลายส่วน
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายนี้เรียกได้ว่า เป็น “หัวใจ” ของการบริหารกิจการภายในสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นการชี้วัดทิศทาง และ “ชี้ชะตา” รัฐบาลสมัยที่สองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมีเป้าหมายหลัก คือการลดงบประมาณหลายด้าน ซึ่งสนับสนุนระบบสวัสดิการสังคม เพื่อใช้เป็น “ต้นทุน” สำหรับการขยายระยะเวลาของกฎหมายลดภาษีฉบับปี 2560 ออกไปอีกอย่างน้อย 10 ปี
อย่างไรก็ตาม การที่ร่างกฎหมายระบุถึงการตัดงบประมาณสนับสนุนโครงการประกันสุขภาพสำหรับผู้มีรายได้น้อย (เมดิเคด) เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่าย ไม่เว้นแม้จากภายในพรรครีพับลิกันด้วยกันเอง ท่ามกลางคำเตือนว่า กฎหมายนี้จะทำให้สหรัฐเดินทางไปสู่หุบเหวของวิกฤติการเงิน จนการขาดดุลงบประมาณอาจพุ่งขึ้นไปเป็น 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 131.27 ล้านล้านบาท) ภายในระยะเวลาอีก 10 ปีนับจากนี้
ด้านสำนักงานงบประมาณสภาคองเกรส (ซีบีโอ) ประเมินว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะทำให้คนรวย 10% แรกของสหรัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่คนจน 10% แรกจะจนกว่าเดิม ซึ่งเป็นผลจากการตัดงบประมาณสนับสนุนสวัสดิการสาธารณะ
กระนั้น นางแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ยืนกรานว่า ร่างกฎหมายนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐให้เติบโตได้ถึง 5.2% และช่วยประหยัดงบประมาณส่วนกลางได้ถึง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 52.51 ล้านล้านบาท)
ทว่านักลงทุนยังคงมองตรงกันข้าม โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงที่สุด นับตั้งแต่เดือน ก.พ. เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สะท้อนความวิตกกังวลว่า การใช้จ่ายตามแนวทางของร่างกฎหมายนี้ จะยิ่งเพิ่มภาระหนี้สาธารณะของสหรัฐ ซึ่งตอนนี้สะสมพุ่งเกิน 36 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว (ราว 1,181.52 ล้านล้านบาท).
เครดิตภาพ : AFP
