เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 28 พ.ค. ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ติดตามจับกุมนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากเกรงว่าคดีจะหมดอายุความ ว่า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับอำนาจหน้าที่ของดีเอสไอ ซึ่งต้องดูว่าต้นเรื่องเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดหากมีความจำเป็นต้องทำอย่างไรหรือไม่ ซึ่งตนได้บอกดีเอสไอไปแล้วว่า ให้มีความเป็นอิสระตามอำนาจหน้าที่กฎหมาย และทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการกลั่นแกล้งหรือช่วยเหลือใคร
เมื่อถามย้ำว่า ต้องกำชับดีเอสไออีกครั้งหรือไม่ เนื่องจากวันที่ 15 มิ.ย. คดีจะหมดอายุความ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ดีเอสไอรู้อยู่แล้วว่าควรจะต้องทำอย่างไร ตนไม่จำเป็นต้องไปกำชับอะไร คนที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เมื่อเขาดูเรื่องแล้ว ถ้าเห็นว่าจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย หรือจำเป็นต้องดำเนินการอย่างไร ก็ว่ากันไป เขามีอำนาจหน้าที่ ส่วนตนไม่มีอำนาจหน้าที่ เพียงแต่กำกับดูแลให้เขาทำตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยเกรงว่าจะถูกดึงเรื่องโดยดีเอสไอ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า “ถ้าดึงเรื่องเขาก็โดนสิ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเขาดึงเรื่องเขาโดน ผมว่าเขารู้หน้าที่ของเขา เขาเป็นพนักงานสอบสวน ทำหน้าที่มาไม่รู้กี่ครั้งกี่หนแล้ว กฎหมายเขียนอย่างไร หน้าที่มีอย่างไรก็ทำไปตามนั้น ตนไม่มีอำนาจกำชับ หรือสั่งเขา ผมเพียงมากำกับดูแลคนที่ทำตามหน้าที่ทำตามกฎหมายคือเขา”
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยตั้งข้อสังเกตว่า ดีเอสไอจับนายณฐพรเป็นตัวประกัน เพื่อมาเล่นงานพรรคภูมิใจไทย นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ความคิดเหล่านั้นเป็นความคิดที่คิดไปได้ว่าเป็นอย่างไร เพราะมันเป็นการเมือง หมายความว่ามันมีคดีก็คิดไปได้ ส่วนจะเป็นแบบนั้นจริงหรือไม่ มันก็ต้องใช้เหตุใช้ผล
เมื่อถามว่า การที่นายชูศักดิ์มากำกับดูแลดีเอสไอ เหมือนทำงานเชิงบุ๋นมากกว่าบู๊ แตกต่างจากรัฐมนตรีคนก่อน เพราะมีความกังวลหรือไม่ นายชูศักดิ์ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า จะให้ไปบู๊อย่างไร เพราะเราไม่มีอำนาจหน้าที่ไปทำนู้น ทำนี่ ตนยืนอยู่แบบนี้ว่าทำตามกฎหมาย ทำตามหลักฐานข้อบังคับที่มี ซึ่งที่เป็นปัญหากัน เพราะว่าเราไม่ได้ทำตามครรลองของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทุกเรื่องต้องมีการรายงานมาที่ตน
เมื่อถามว่า หลังจากพบอธิบดีดีเอสไอครั้งแรก ได้มีการรายงานปัญหาในการทำงาน หรือต้องขออนุญาตอะไรหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เขาก็รายงานว่าแต่ละคดีมีปัญหาอย่างไร และมีความคืบหน้าไปถึงไหน ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการดูกฎหมายให้ถ่องแท้ เราก็ทำตามกฎหมายไป และทำอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อถามว่า ให้คำมั่นได้หรือไม่ว่าคดีของนายณฐพร จะไม่หมดอายุความก่อน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มีหน้าที่ไปจับ คนที่จะให้คำมั่นคือหน่วยงานที่เขามีหน้าที่
เมื่อถามว่า กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกหมายเรียกสอบผู้เกี่ยวข้องคดีฮั้ว สว. ลอตที่ 4 จำนวน 16 คน ซึ่งมีชื่อพ่อตาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม จะทำให้เจ้าหน้าที่มีความกังวลในการทำงานหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าเมื่อเดินมาแบบนี้แล้วก็ต้องดูให้ดี ดูว่ากฎหมายว่าอย่างไร เดินไปตามทางที่มันปลอดภัยที่สุด