เมื่อวันที่ 31 พ.ค. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เครือเนชั่น พร้อมกับวิเคราะห์การเมือง อยากให้กระทรวงมหาดไทยมาอยู่ในความดูแลของพรรคเพื่อไทยนั้น ว่า เป็นมุมมองของนายทักษิณ ที่ห่วงใยบ้านเมือง อยากให้การทำงานแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ประชาชนอย่างชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ที่กำลังระบาดอย่างหนักส่งผลร้ายต่อเยาวชน ประเทศชาติ ถึงแม้ภาครัฐ ตำรวจ ทหาร จะเข้มงวดกวดขัน แต่ก็ยังไม่หมดไป ดังนั้นหากได้หน่วยงานที่ทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และส่วนท้องถิ่น บวกกับการเอาจริงเอาจังจากเจ้าหน้าที่ จะเห็นการแก้ปัญหาอย่างเข้มข้น เป็นรูปธรรมมากขึ้น  

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า “ขอดักทางคนที่จะออกมาบอกว่าท่านทักษิณ ก้าวก่าย แทรกแซงการบริหารงานของรัฐบาล ท่านเพียงมองจากผู้ที่มีประสบการณ์ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ผ่านการบริหารประเทศมาก่อน เก็บข้อมูลจากการลงพื้นที่ สัมผัสกับประชาชน เลยให้ความเห็นออกมา ถึงอย่างไรอำนาจการปรับ ครม. เป็นอำนาจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ผลสุดท้ายแล้วการปรับออกมาจะเป็นอย่างไร ปรับกี่ตำแหน่ง กี่กระทรวง รัฐมนตรีจากพรรคใดบ้าง ไม่มีใครรู้ ถือเป็นเรื่องปกติ รัฐบาลทำงานมาได้ระยะหนึ่ง จะต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้าง เลือกบุคคลมาแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างตรงจุด”

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า บรรดาเจ้ากระทรวงไม่ควรยึดติดกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ พรรคใดเป็นเจ้าของหรือเป็นสมบัติส่วนตัว เพราะไม่ว่าอยู่ตรงไหน ก็ทำงานให้กับประชาชนได้ทั้งนั้น วาระของรัฐบาลที่เหลือประมาณ 2 ปี ไม่เพียงพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลอย่างเดียว ต้องอาศัยพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมแรงร่วมใจในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไข เป็นการปรับเพื่อทำงานให้ประชาชน โดยประชาชนเองก็จะจับตามอง หลังการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว รัฐมนตรีที่กำกับดูแล ทำงานได้ดีขึ้นหรือไม่ ถ้าสัมผัสไม่ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี รัฐมนตรีเหล่านั้นจะถูกกระแสสังคม และประชาชนลงโทษเอง