สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองกาซาซิตี ฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่า นายเยนส์ แลร์เคอ โฆษกของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นโอซีเอชเอ) ระบุว่า “กาซาเป็นดินแดนซึ่งมีความหิวโหยมากที่สุดในโลก” และเป็นพื้นที่แห่งเดียวบนโลก ณ เวลานี้ ที่ประชากร 100% เสี่ยงต่อภาวะอดอยาก
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อิสราเอลผ่อนปรนการปิดกั้นความช่วยเหลือทั้งหมดในบางส่วนของดินแดนปาเลสไตน์ ซึ่งเริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา และได้ส่งผลให้ขาดแคลนอาหารและยาอย่างรุนแรง
แลร์เคอกล่าวถึงความยากลำบากที่ยูเอ็นต้องเผชิญ ในการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในฉนวนกาซา ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีรถบรรทุกเพียง 600 คันเท่านั้น ที่สามารถลำเลียงสิ่งของเข้าสู่พื้นที่ ขณะที่ปริมาณสิ่งของก็มีไม่มากนัก เนื่องจากต้องคำนึงถึงความปลอดภัยหลายประการ
"Gaza is the hungriest place on earth."
— DW News (@dwnews) May 30, 2025
The UN warns that Israel's stranglehold on aid flowing into Gaza makes it one of the most obstructed humanitarian operations in the world — with 100% of its Palestinian population at risk of famine. pic.twitter.com/bSD4VF6uWA
ด้านมูลนิธิมนุษยธรรมแห่งฉนวนกาซา ซึ่งเป็นองค์กรแห่งใหม่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิสราเอลและสหรัฐ โดยเพิ่งก่อตั้งเมื่อต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ทำหน้าที่กระจายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่หลายแห่งทั่วฉนวนกาซา
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานขององค์กรดังกล่าว เผชิญกับข้อครหาว่า ช่วยเหลืออิสราเอลให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางทหาร กีดกันชาวปาเลสไตน์ และไม่ปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม
แลร์เคอเสริมว่า การดำเนินงานของมูลนิธิแห่งนี้ “ไม่ได้ผล” เนื่องจากยังไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้คน และยังทำให้เกิดความโกลาหล นอกจากนั้น การแจกจ่ายด้วยการให้ชาวปาเลสไตน์เข้ามารวมตัวกันจุดเดียว ทำให้ประชาชนเป็นเป้าหมายของการโจมตี.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES