สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ว่า รายงานของไอเออีเอระบุว่า อิหร่านเพิ่มปริมาณยูเรเนียมที่ได้รับการเสริมสมรรถนะในอัตราสูงถึง 60% อย่างรวดเร็ว ซึ่งใกล้เคียงกับระดับ 90% สำหรับการนำไปผลิตอาวุธนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเตหะรานปฏิเสธรายงานดังกล่าว ท่ามกลางความตึงเครียดสูงในภูมิภาคตะวันออกกลาง อันเป็นผลมาจากปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เรียกรายงานว่าเป็น “ความเคลื่อนไหวทางการเมือง” โดยกล่าวหาว่า อิสราเอลให้ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือและสร้างความเข้าใจผิดแก่ไอเออีเอ ในการจัดทำรายงาน
ด้านนายอับบาส อารักชี รมว.การต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า เขาได้รับ “องค์ประกอบ” ของข้อเสนอจากสหรัฐ เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้น หลังการเจรจา 5 รอบที่มีโอมานเป็นคนกลาง ตลอดจนยืนยันจุดยืนที่มีมาอย่างยาวนานของประเทศ นั่นคือ รัฐบาลเตหะรานปฏิเสธอาวุธนิวเคลียร์
อนึ่ง รายงานของไอเออีเอระบุว่า อิหร่านมียูเรเนียมเสริมสมรรถนะ 60% ประมาณ 408.6 กิโลกรัม ณ วันที่ 17 พ.ค. 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้น 133.8 กิโลกรัม นับตั้งแต่รายงานฉบับล่าสุดในเดือน ก.พ. พร้อมกับเสริมว่า การผลิตและการสะสมยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของอิหร่าน ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ไอเออีเอยังระบุในรายงานเชิงลึกอีกฉบับ วิพากษ์วิจารณ์ความร่วมมือที่ “ไม่น่าพึงพอใจ” ของรัฐบาลเตหะราน เกี่ยวกับการตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยเฉพาะการที่อิหร่านไม่มีความคืบหน้าในการอธิบายวัสดุนิวเคลียร์ที่พบในสถานที่ซึ่งไม่ได้ประกาศ.
เครดิตภาพ : AFP
