เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงายว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรครวมไทยสร้างชาติ พ.ศ. 2563 เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2568 โดย ยกเลิกความในข้อ 53 ของข้อบังคับพรรครวมไทยสร้างชาติ พ.ศ. 2563 และให้ใช้ข้อความดังต่อไปนี้แทน ข้อ 53 ระบุว่า สมาชิกภาพของสมาชิกพรรคสิ้นสุดลง เมื่อผู้นั้นขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคในกรณี….
ทั้งนี้ มีสาระสำคัญใน (5) คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค เพราะกระทำผิดวินัยหรือมาตรฐานทางจริยธรรมหรือจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบต่อพรรคการเมืองตามข้อ 55 หรือกระทำความผิดกฎหมายร้ายแรง หรือมีเหตุร้ายแรงอื่น (6) ฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่นหรือสนับสนุนผู้สมัครในตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ที่ไม่ใช่ของพรรคการเมือง (7) กระทำการใดที่ทำให้เกิดความแตกแยกหรือความเป็นเอกภาพในพรรคการเมือง หรือการบริหารพรรคการเมือง รวมทั้งสนับสนุนหรือส่งเสริมการกระทำเช่นว่านั้น
โดยมีรายงานข่าวจากพรรค รทสช. ระบุว่า นายพีระพันธุ์ จะต้องเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยต้องขอมติที่ประชุม ให้ความเป็นสมาชิกภาพของสมาชิกพรรคสิ้นสุดลง โดยจะต้องมีหลักฐานว่ากระทำความผิดจริงและก่อให้เกิดความผิดร้ายแรง จึงจะถือว่าขาดจากสมาชิกพรรค แต่สืบเนื่องจากการกระทำของนายสุชาติ ในลักษณะนี้ คือการนัด สส. ของพรรครวมไทยสร้างชาติ รับประทานอาหาร เมื่อวันที่ 30 พ.ค. เพื่อย้ายไปอยู่กับพรรคการเมืองที่จัดตั้งใหม่ เป็นเพียงการกินข้าวร่วมกันเท่านั้น
ขณะที่ตามมาตรา 101 ของรัฐธรรมนูญ ปี 60 กรณีสส.ถูกขับพ้นพรรคการเมือง รีบดำเนินการย้ายเข้าพรรคใหม่ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่พรรคมีมติขับออกจากพรรค สส.คนนั้นก็จะยังมีสถานะเป็น สส.ต่อไป ภายใต้สังกัดพรรคการเมืองใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของนายพีระพันธุ์ ประกอบด้วย 1.นายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรค 2.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค 3.นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง กรรมการบริหารพรรค 4.นายวิทยา แก้วภราดัย กรรมการบริหารพรรค 5.นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ กรรมการบริหารพรรค 6.นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร กรรมการบริหารพรรค 7.นายชื่นชอบ คงอุดม กรรมการบริหารพรรค 8.นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ เหรัญญิกพรรค และ 9.นายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค.
