เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 68 ที่รัฐสภา พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย น.ส.นารากร ติยายน ตัวแทนประชาชน เข้ายื่นหนังสือถึงนายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาเพื่อรับผลกระทบ และการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรม รับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบการทุจริตกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และทรัพย์สินทางราชการเสียหาย
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาพูดอย่างขึงขังว่าจะตรวจสอบหาคนผิดให้ได้ รวมทั้งหาสาเหตุที่ตึกถล่ม โดยระบุว่าจะดำเนินการภายใน 7 วัน แต่ตอนนี้ขอยืดไปอีก 90 วัน ซึ่งตนทราบว่ายังทำไปได้ไม่เท่าไร มีอย่างเดียวคือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิด แต่เรายังไม่เห็นความรับผิดชอบจากผู้ใหญ่ใน สตง. ว่ามีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหรือไม่ มีการตั้งคนขึ้นมาตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของตนเองหรือไม่ หรือมีการยักคิ้วหลิ่วตาช่วยกันหรือไม่ ยังไม่เห็นมีเรื่องเหล่านี้ มีอย่างเดียวคือรอให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณา
“หากอ้างว่าเป็นเรื่องเก่า แต่เมื่อคุณเข้ามาใหม่ ทำไมถึงไม่สอบ เรื่องนี้คนเป็นผู้บริหารต้องรับผิดชอบเพราะเงินทุกบาททุกสตางค์เป็นของประชาชน ถ้าคุณไม่ทำจะโดนข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ยืนยันว่าผมจะตามทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารทั้งใหม่และเก่า เพราะผมคุยกับตำรวจแล้วว่ามีหลักฐานถึงทุกคน” พล.ต.ต.วิชัย กล่าวและว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อประชาชน 3 หมื่นคนเพื่อยื่นถอดถอนผู้ว่า สตง.ต่อไปด้วย
ขณะที่ น.ส.นารากร กล่าวว่า กรณีตึก สตง.ถล่ม ถูกตั้งคำถามจากคนทั่วโลกว่าเป็นการคอร์รัปชั่นหรือไม่ การที่ตึกจะถล่มลงมาแบบสมมาตรแบบนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ครั้งนี้แผ่นดินไหวถือว่าพระแม่ธรณีฟ้องคนไทย แผ่นดินฟ้องคนไทยว่าเขากำลังทำอะไรกับงบประมาณของชาติ เขาบอกว่าเงินเสียไปหาใหม่ได้ จะเอาเงินภาษีมาสร้างอีกกี่ตึกก็ได้แต่ชีวิตที่เสียไปร้อยชีวิตเอามาคืนได้หรือไม่ ตนถามแค่นี้ ดังนั้นในนามภาคประชาชน ที่ผ่านมาตนและนายดำรง พุฒตาล ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา (กิตติมศักดิ์) ได้ไปฟ้องร้องกล่าวโทษนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่า สตง. และนายประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่า สตง. ในข้อหาประมาททำให้มีผู้เสียชีวิต และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทาง สน.บางซื่อ มีการรวบรวมพยาน หลักฐานส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. แล้ว นอกจากนี้ยังมีญาติผู้เสียชีวิตยื่นเรื่องมาที่ตนหลายกรณี โดยจะรวบรวมนำส่ง ป.ป.ช.ต่อไป
ด้านนายปลอดประสพ กล่าวว่า กรณีแผ่นดินไหวที่ทำให้ตึก สตง.ถล่ม ทำให้ประเทศชาติเสียเงินจากภาษีประชาชน 2,600 ล้านบาท หากมองให้ลึกลงไปกว่านั้น มันเป็นแผ่นดินไหวที่สะเทือนไปถึงด้านวิศวกรรมออกแบบ ขบวนการจัดการในเรื่องการก่อสร้าง และกฎระเบียบราชการของประเทศไทย ในการบริหารจัดการการก่อสร้างตึกที่ใหญ่ขนาดนี้ ที่สำคัญคือไหวไปถึงศีลธรรมจรรยาของผู้รับผิดชอบของหน่วยราชการ ถ้าปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นไม่แก้ไข ประเทศชาติก็อยู่ไม่ได้ ซึ่ง กมธ.จะต้องหาต้นเหตุ รวมถึงจรรยาบรรณ และวัฒนธรรมแบบไทยๆ ที่ปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เราจะนำมาสร้างมาตรฐานและกฎระเบียบขึ้นใหม่ ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องยากแต่จะพยายามทำให้สำเร็จ และโชคดีครั้งนี้สภาโดยทุกพรรคการเมืองร่วมมือกัน ไม่มีรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เราคิดและตั้งใจเหมือนกันที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ตนขอเปิดอีกเรื่องหนึ่งคือไม่น่าเชื่อว่าหน่วยหนึ่งที่มีอำนาจจะเรียกข้าราชการมา และมอบหมายงานที่สกปรกให้ไปของานก่อสร้างในระดับกรม กระทรวง ถ้ากรมหรือกระทรวงนั้นไม่ให้งานก่อสร้างก็จะส่งคนของตนเองไปตรวจสอบไปหาความผิด กรมหรือกระทรวงบางแห่งไม่อยากมีเรื่อง เขาก็ต้องให้ ได้มาแล้วแทนที่จะเอามาทำให้มันดีก็ไปกิน ไปโกงกันอีก ตนเป็นอธิบดีมา 6-7 กรม และเป็นปลัดกระทรวงถึง 2 กระทรวง ไม่เคยมีสิ่งเหล่านี้เขามาในหูในตาตนเลย ระบบราชการไทยมันเลวได้แบบนี้แล้วหรือ
“วันนี้ผมจะขอมติที่ประชุม กมธ.ทำเรื่องถึงประธาน คตง.ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ว่า สตง. และคณะ ให้ไปสั่งการให้ผู้ว่า สตง.มาให้ข้อมูลกับพวกผม และขอแนะนำเมื่อได้รับหนังสือจาก กมธ.แล้วกรุณาสั่ง มิเช่นนั้นคนจะเอาไปนินทาว่าท่านปกป้องกันเอง ใครชื่ออะไรผมไม่รู้ แต่ผมส่งไปตามตำแหน่ง” นายปลอดประสพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างแถลง นายปลอดประสพได้เปิดตัวพยานซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ สตง.ที่ถูกใช้ให้ไปล่าหาโครงการในหน่วยงานราชการต่างๆ โดยอดีตเจ้าหน้าที่ สตง. กล่าวว่า ตนยืนยันในสิ่งที่นายปลอดประสพพูดว่ามีการให้ไปหางานเพื่อการแสวงหาผลประโยชน์เป็นความจริง ซึ่งตนไม่กลัวว่าจะมีการฟ้องร้อง เพราะตนเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ สตง.ที่ทำงานใกล้ชิดกับ คตง.ท่านหนึ่ง และได้อยู่ในเหตุการณ์ต่างๆ ตนมีข้อมูลทั้งคลิปภาพ คลิปเสียงยืนยันและได้นำข้อมูลนี้มอบให้กับนายปลอดประสพไปแล้ว ทุกคนรู้ความจริงหมดแล้วว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่น ตนจึงขอเรียกร้องนายมณเฑียรในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ให้ลาออกจากตำแหน่ง และทำให้องค์กรโปร่งใส่เพื่อให้มีคนใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทน อยากให้ท่านยอมรับความจริงตรงนี้.