เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จ.ระนอง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเปิดแหล่งท่องเที่ยวบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยใช้ธรรมชาติและธาราบำบัด ที่เป็นที่นิยมของบุคคลทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงประชาชนจังหวัดระนอง ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำการปิดเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจุบันความสวยงามของธรรมชาติต่าง ๆ ได้ฟื้นตัว จึงเปิดการท่องเที่ยวให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเข้ามารับบริการ ในวันที่ 18 พ.ย. นี้

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่องตะวันตก ถนนสายสาม อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เพื่อติดตามนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ก่อนมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ในเขตปฏิรูปที่ดิน (สำหรับสถาบันเกษตรกร) และมอบกล้าไม้เศรษฐกิจ จำนวน 400 กล้าให้กับผู้นำชุมชน เพื่อนำไปปลูกในพื้นที่ที่ได้รับสมุดประจำตัว ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในพื้นที่ คทช. ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกกฎหมาย สามารถปลูกไม้เศรษฐกิจและตัดขายได้เพื่อเป็นทุนออมในอนาคต โดยในปี 2564 กรมป่าไม้ ได้เพาะกล้าไม้เพื่อสนับสนุนและแจกจ่ายให้กับประชาชนในโครงการ คทช. จำนวน 30,870,000 กล้า และแจกจ่ายไปแล้ว 14 ล้านกล้า คงเหลือกล้าไม้ในพื้นที่ คทช. จำนวน 16 ล้านกล้า ทั้งนี้ กรมป่าไม้ ยังมีกล้าไม้สำหรับประชาชนทั่วไปที่ต้องการปลูกต้นไม้อีกจำนวน 63 ล้านกล้า สามารถรับกล้าได้ฟรี ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ และสถานีเพาะชำทุกจังหวัด ทั่วประเทศไทย

โดย พล.อ.ประวิตร สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ คทช. อย่างต่อเนื่อง ในส่วนการแจกจ่ายกล้าไม้เศรษฐกิจให้กับประชาชนนำไปปลูกเพื่อเป็นรายได้ในอนาคต ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สนับสนุนกล้าไม้ และให้คำปรึกษาในทางวิชาการ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มสหกรณ์ ส่งเสริมพัฒนาอาชีพหลักและอาชีพเสริม เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์สามารถต่อยอด และสามารถพึ่งพาตนเองได้.