ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสงครามนำคณะกรรมการและที่ปรึกษาลงพื้นที่ อบต.ลาดใหญ่ หารือกับนายธนู เสมอจิต นายก อบต. เรื่องการขยายเมือง โดย นายมงคลฯ กล่าวว่า อบต.ลาดใหญ่ มีศักยภาพสูงในเรื่องที่ดินที่สามารถรองรับการเติบโตของเมืองได้ เพราะปัจจุบันความเป็นเมืองในตลาดแม่กลองต้องยอมรับว่ามีความแออัดมากขึ้น โดยเฉพาะโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดฯ ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยและผู้ที่มาใช้บริการจำนวนมาก อีกทั้งที่จอดรถและพื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆมีจำกัด หอการค้าจึงเห็นว่าพื้นที่สาธารณะที่ราชพัสดุประมาณ 1,200 ไร่ใน ต.ลาดใหญ่ หากนำมาทำประโยชน์เพื่อสังคมสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่เพิ่มก็จะช่วยแบ่งเบาภาระและสร้างทางเลือกในการรักษาพยาบาลให้ประชาชนมากขึ้น

เบื้องต้นหอการค้าเห็นว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะแบ่งปันพื้นที่สาธารณะที่ราชพัสดุดังกล่าวส่วนหนึ่งประมาณ 100-200 ไร่มาสร้างโรงพยาบาลใช้ชื่อว่า “โรงพยาบาลหลวงพ่อบ้านแหลม” การมาหารือกับนายก อบต.ลาดใหญ่ครั้งนี้เพื่อรับทราบความคิดเห็นของผู้นำท้องถิ่น หากเห็นด้วยก็จะได้นำไปหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนเรื่องงบประมาณที่จะใช้นั้นอาจจะเสนอโครงการขอปรับปรุงสถานที่ราชพัสดุจากส่วนกลาง ในส่วนการสร้างโรงพยาบาลหลวงพ่อบ้านแหลมนั้น จะขอหารือกับท่านเจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรฯ เพื่อขอความคิดเห็นและคำแนะนำจากท่านว่าจะขอรับบริจาคเงินสมทบทุนก่อสร้างโรงพยาบาลฯ โดยจะขอเปิดบัญชีรับบริจาคในนามวัดฯ จากประชาชนผู้มีจิตศรัทธาในองค์หลวงพ่อบ้านแหลมและเมื่อสร้างเสร็จแล้วก็ยกให้เป็นของรัฐบริหารจัดการต่อไป

ด้านนายธนู เสมอจิต นายกอบต.ลาดใหญ่ กล่าวว่าเห็นด้วยและยินดีจะร่วมผลักดันให้เกิดการสร้างโรงพยาบาลอีก 1 แห่ง เพื่อขยายเมืองและขยายความเจริญด้านการรักษาพยาบาลมานอกเขตเมือง เนื่องจากการรักษาพยาบาลเป็นสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรจะได้รับ อย่างไรก็ตามเพื่อความยั่งยืนตนอยากให้การบริหารจัดการที่เกิดประโยชน์และเป็นไปได้โดยบริหารแบบองค์การมหาชน เพราะหากบริหารโดยรัฐเพียงอย่างเดียวจะมีข้อจำกัดหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณที่ล่าช้าและมีความจำกัด แต่การบริหารแบบองค์การมหาชนจะทำให้การจัดการโรงพยาบาลมีความคล่องตัวมากขึ้น

นายธนู กล่าวด้วยว่า ล่าสุดทาง อบต.ลาดใหญ่ได้วางแผนขยายถนน 2 เลนเข้าพื้นที่ราชพัสดุ 1,200 ไร่ดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะดำเนินการได้ในปี 2568 นี้ ส่วนเรื่องเมืองปลอดขยะนั้น นายธนู บอกว่าเห็นควรเริ่มต้นที่เยาวชนเนื่องจากเป็นผลผลิตที่มีอนาคต และจะปลูกฝังการสร้างจิตสำนึกได้ง่าย อย่างไรก็ตามเห็นด้วยกับการรณรงค์คัดแยกขยะของประชาชน แต่จากการสำรวจของ อบต.พบว่าเศษขยะตามริมถนนในพื้นที่นั้นส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากประชาชนในพื้นที่แต่เกิดจากประชาชนผู้ใช้แรงงานที่สัญจรไปทำงานโรงงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยนั่งรถโดยสารสองแถวเหมาไปทำงานตอนเช้า ส่วนใหญ่จะนำอาหารมาทานบนรถด้วย เมื่อทานเสร็จไม่มีที่ทิ้งก็เหวี่ยงออกนอกรถ ทำให้ขยะเกลื่อนกลาดริมถนน จึงอยากหารือหอการค้าให้ช่วยรณรงค์กับผู้ประกอบการรถโดยสาร ดังกล่าวให้มีการรณรงค์จัดการทิ้งขยะไว้บนรถ เพราะการโยนขยะออกมานอกรถบริเวณข้างถนน นอกจากจะเป็นภาระของ อบต.ที่ต้องตามเก็บแล้ว ยังสร้างทัศนียภาพที่ไม่สวยงามอีกด้วย