สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่าการลงประชามติซึ่งกินเวลา 2 วัน และผลักดันโดยพรรคประชาธิปไตยสายกลาง-ซ้าย ล้มเหลวลงเนื่องจากมีผู้ออกมาลงคะแนนเพียง 30% หลังการปิดหีบ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

กฎหมายปัจจุบันของอิตาลี กำหนดให้ผู้อยู่อาศัยที่ไม่ได้มาจากประเทศสหภาพยุโรป (อียู) และไม่ได้สมรส หรือมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับอิตาลี ต้องอาศัยอยู่ในประเทศเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี จึงสามารถยื่นคำร้องขอสัญชาติได้ ซึ่งหากการลงประชามติสำเร็จ ระยะเวลาจะลดลงเหลือ 5 ปี เทียบเท่ากับกระบวนการของเยอรมนีและฝรั่งเศส

บัตรลงคะแนนมีคำถามเกี่ยวกับสถานะพลเมือง 1 ข้อ ส่วนอีก 4 ข้อเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความคุ้มครองคนงานที่ถูกไล่ออก อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มั่นคง หรือประสบอุบัติเหตุในที่ทำงาน

นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี ผู้นำอิตาลี ซึ่งพรรคบราเธอร์ส ออฟ อิตาลี ของเธอที่มีอุดมการณ์ขวาจัด และให้ความสำคัญกับการลดจำนวนผู้อพยพผิดกฎหมาย ยืนยันว่า เธอคัดค้านแนวคิดดังกล่าว ขณะที่สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลฝ่ายขวา เรียกร้องให้ประชาชนไม่ไปลงคะแนน เพื่อให้จำนวนผู้ลงประชามติไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ คืออย่างน้อย 50%

อนึ่ง หลังจากนี้ ไม่ว่าการปฏิรูปในเรื่องนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร กฎหมายการย้ายถิ่นฐานฉบับนี้จะไม่กระทบต่อกฎหมายเดิม ที่กำหนดให้เด็กซึ่งเกิดในอิตาลี แต่หากมีบิดาและมารดาเป็นชาวต่างชาติ จะไม่สามารถขอสัญชาติอิตาลี ได้จนกว่าจะมีอายุครบ 18 ปี.

เครดิตภาพ : AFP