เจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษแจ้งว่า ผู้ต้องสงสัยในเหตุคาร์บอมบ์หน้าโรงพยาบาลเมืองลิเวอร์พูล เป็นชายวัย 32 ปี ชื่อเอมัด อัล สวีลมีน ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยเขาขึ้นรถแท็กซี่และบอกให้คนขับขับไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ห่างออกไปจากจุดที่เขาขึ้นรถราว 10 สิบนาที

การระเบิดเกิดขึ้นในรถแท็กซี่ขณะที่รถกำลังจะเข้าจอดในจุดรับ-ส่งหน้าโรงพยาบาลสตรีของเมืองลิเวอร์พูล คนขับแท็กซี่ถูกพาตัวส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บและสามารถกลับบ้านได้แล้ว

อังกฤษได้ยกระดับเหตุการณ์นี้ให้เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติระดับรุนแรง พริตี้ พาเทล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษ กล่าวว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เป็นเหตุการณ์โจมตีร้ายแรงจนมีผู้เสียชีวิตครั้งที่ 2 ภายในเวลา 1 เดือน หลังจากที่มีเหตุการณ์คนร้ายบุกแทง เดวิด อาเมสส์ ส.ส.อังกฤษ จนเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (15 พ.ย.) ผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิด 4 รายซึ่งโดนจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้รับการปล่อยตัวแล้ว โดย 3 ใน 4 คน ซึ่งมีอายุ 29, 26 และ 21 ปี โดนจับกุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และต่อมาในวันจันทร์ รัสส์ แจ็คสัน ผู้ช่วยผู้บังคับการตำรวจแห่งกองกำลังต่อต้านการก่อการร้ายของสำนักงานตำรวจในภูมิภาคระวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษกล่าวว่า ได้มีการจับกุมชายวัย 20 ปีอีกคนหนึ่ง

เหตุระเบิดเกิดขึ้นก่อนเวลา 11.00 น. ของวันอาทิตย์ ขณะที่กำลังมีการจัดพิธีเนื่องในวันรำลึกถึงวีรชนผู้เสียสละในสงครามที่โบสถ์เมืองลิเวอร์พูลที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งตำรวจกำลังสืบสวนว่างานนี้มีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดหรือไม่

แอนดรูว์ มีคส์ หัวหน้าหน่วยสืบสวนกล่าวในแถลงการณ์ซึ่งเผยแพร่โดยสำนักงานตำรวจเขตเกรทเตอร์ แมนเชสเตอร์ ว่า ทางตำรวจยังเข้าตรวจค้นสถานที่ 2 แห่งซึ่งเกี่ยวข้องกับ อัล สวีลมีน และค้นพบหลักฐานสำคัญหลายชิ้น

“ตอนนี้เราเปิดเผยชื่อของเขาไปแล้ว ข้อมูลใดๆ ที่สาธารณชนอาจจะมีเกี่ยวกับอัล สวีลมีน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน อาจช่วยเราได้มาก” เขากล่าว

ตำรวจ กล่าวว่า พวกเขาค้นพบหลักฐานสำคัญจากที่พักที่ถนนรัทแลนด์ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการสืบสวน ทั้งนี้ อัล สวีลมีนขึ้นรถแท็กซี่จากแถวถนนรัทแลนด์ ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวบีบีซี

แจ็คสัน กล่าวว่า ยังไม่ทราบเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมผู้โดยสารรถแท็กซี่คันดังกล่าวจึงต้องการไปยังโรงพยาบาล หรืออะไรคือสาเหตุของการระเบิดอย่างฉับพลัน

ก่อนหน้านี้ นายกเทศมนตรี โจแอนน์ แอนเดอร์สัน กล่าวถึงการกระทำของคนขับรถแท็กซี่ว่าเป็นการกระทำของวีรบุรุษ สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าเขาเป็นคนล็อกประตูขังผู้โดยสารคนดังกล่าวไว้ในรถ

ต่อมาในเช้าวันจันทร์ที่ 15 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยเก็บกู้ระเบิดออกปฏิบัติหน้าที่ เมื่อมีการส่งคำขู่ว่าจะมีการวางระเบิดที่สวนสาธารณะเซฟตัน ทางตอนใต้ของเมืองลิเวอร์พูล

“มันเป็นเรื่องสำคัญที่สาธารณชนควรตื่นตัวว่ายังมีภัยคุกคามจากการก่อการร้าย แต่ต้องไม่ตื่นตูม” พาเทล กล่าว

เครดิตภาพ : Reuters