สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในนครลอสแอนเจลิส เริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการประกาศเคอร์ฟิว และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ไม่ยอมออกจากพื้นที่ได้ประมาณ 25 คน
ทรัมป์ยืนกรานบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า หากกองกำลังสหรัฐไม่เข้าไปในนครลอสแอนเจลิส เมืองก็คงจะพังราบไปแล้ว ขณะที่ทำเนียบขาวเน้นย้ำคำกล่าวของผู้นำสหรัฐ โดยนางแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะไม่ยอมให้การปกครองแบบกฎหมู่ครอบงำอเมริกา
อย่างไรก็ตาม นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวหาว่า ทรัมป์พยายามยกระดับการเผชิญหน้าเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง พร้อมกับเสริมว่า ประชาธิปไตยกำลังถูกโจมตีต่อหน้าต่อตา และสถานการณ์ความไม่สงบจะไม่จบอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียอย่างแน่นอน


เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผู้คนหลายพันคนเดินขบวนในนครนิวยอร์ก และเมืองชิคาโก อีกทั้งกลุ่มผู้ประท้วงยังมีแผนจัดการชุมนุมในนครนิวยอร์ก เมืองซีแอตเทิล และนครลาสเวกัส ก่อนที่จะมีขบวนการ “No Kings” ทั่วประเทศในวันเสาร์นี้ ซึ่งทรัมป์จะเข้าร่วมขบวนพาเหรดของกองทัพสหรัฐ ในกรุงวอชิงตัน
กระนั้น ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ที่ฐานทัพสหรัฐ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เตือนว่าการประท้วงใด ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างขบวนพาเหรดในกรุงวอชิงตัน จะเผชิญกับ “กองกำลังชุดใหญ่มาก”
อนึ่ง รัฐบาลของทรัมป์ระบุว่า การประท้วงครั้งนี้ถือเป็น “ภัยคุกคามรุนแรงต่อประเทศ” ซึ่งจำเป็นต้องใช้กองกำลังทหาร ในการสนับสนุนเจ้าหน้าที่สำนักงานคนเข้าเมืองและศุลกากร (ไอซีอี) และตำรวจ ตลอดจนอ้างถึงการโจมตีสันติภาพ ความสงบเรียบร้อยของประชาชน และอธิปไตยของชาติอย่างเต็มรูปแบบ จาก “ศัตรูต่างชาติ”.
เครดิตภาพ : AFP