เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่อาคารมหิตลาธิเบศร กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการแพทยสภามีการประชุมสำคัญคือการพิจารณาประเด็นที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ยับยั้งหรือวีโต้มติแพทยสภา เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2568 ให้ลงโทษแพทย์จำนวน 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มารักษาตัวต่อที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยบรรยากาศที่อาคารมหิตลาธิเบศร พบว่ามีสื่อมวลชนมาปักหลักรอทำข่าวจำนวนมาก อีกทั้งยังมีบรรดาแพทย์จำนวนหนึ่ง มารวมตัวกันเพื่อให้กำลังใจแพทยสภา ขณะเดียวกันยังพบว่า มีประชาชนทั่วไปที่ขับรถผ่านหน้าอาคารแพทยสภา ได้ลดกระจกพร้อมตะโกนให้กำลังใจแพทยสภา
ขณะที่แพทยสภาได้ทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุม อาทิ รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการแพทยสภา กล่าวว่า วันนี้ไม่มีความกดดดัน ถือเป็นเรื่องปกติ เราให้ความสำคัญกับเรื่องวิชาชีพ เชื่อว่าทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง
ด้าน รศ.พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร กรรมการแพทยสภา ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ กับผู้สื่อข่าวที่พยายามสอบถามถึงความกดดันในการลงมติในวันนี้ แต่ได้เปิดเผยสั้นๆ ว่า เป็นเรื่องปกติ ที่ รมว.สาธารณสุข จะเข้ามาชี้แจงในที่ประชุม เพราะถือเป็นสภานายกพิเศษ ขณะที่พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย และกรรมการแพทย์สภาโดยตำแหน่ง ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่ามีความกังวลในการประชุมวันนี้หรือไม่ พญ.หญิงอัมพร ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ เพียงแค่ยิ้มและชู 2 นิ้ว ก่อนเข้าลิฟต์ไป ขณะที่นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ และกรรมการแพทยสภาโดยตำแหน่ง ก็เพียงแค่ส่งยิ้มให้กับผู้สื่อข่าว โดยไม่ตอบคำถามใดๆ เช่นกัน
นอกจากนี้ นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ อดีตอุปนายกที่ 2 แพทยสภา 2 สมัยคือปี 2546 และปี 2550 กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางเพื่อมาให้กำลังใจแพทยสภา เพราะวันนี้วิชาชีพแพทย์กำลังถูกรุกราน พร้อมทั้งจะเสนอให้มีการยกเลิกตำแหน่งสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา เนื่องจากตนไม่เห็นว่าตำแหน่งนี้จะมีไว้เพื่ออะไร ไม่เคยมีประโยชน์เลย เพราะฉะนั้นไม่มีก็ได้ ไม่ควรมีต่อไปในอนาคต เพราะฉะนั้นตนจะเสนอให้ยกเลิกตำแหน่งนี้ เพื่อที่แพทย์จะได้ดูแลกันเอง ไม่มีใครมารุกรานวิชาชีพเรา ทั้งนี้ การแก้ไขเรื่องนี้จำเป็นจะต้องไปแก้ไขในกฎหมายของแพทยสภา
“วันนี้ผมคิดว่าถ้าเขาแน่จริง เขาก็มาเถอะ มาเจอแพทย์ มาเจอผู้สื่อข่าว แล้วก็ขอให้พูดให้ดีด้วย มีคนจะยกเลิกตำแหน่งนี้แล้ว ผมเองนี่แหละ หมอฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ อดีตอุปนายกที่ 2 แพทยสภา 2 สมัย คือปี 2546 และปี 2550” นพ.ฐาปนวงศ์ กล่าว
เมื่อถามว่าการมีตำแหน่งสภานายกพิเศษ เป็นการทำให้มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นพ.ฐาปนวงศ์ กล่าวว่า สมัยก่อน เป็นการให้เกียรติให้แพทยสภา เป็นการให้เกียรติแพทย์อาวุโส แต่ไม่นึกว่าจะมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่แก้ไข ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยโดนรังแก ที่ผ่านมามีแต่จะช่วย และกำชับว่าให้ลงโทษแพทย์อย่างเหมาะสม คนที่ทำผิดจริงก็ให้เพิ่มโทษ ปัจจุบันกรรมการแพทยสภาที่เป็นหมอจริงๆ ที่ไม่มีส่วนร่วมในกิจการต่างๆ น้อยมาก
ด้าน นพ.ชาติชัย อติชาติ ตัวแทนกลุ่มประชาคมแพทย์ เข้ายื่นหนังสือพร้อมรายชื่อแพทย์ 750 คน เพื่อสนับสนุนกรรมการแพทยสภาลงมติยืนยันมติเดิม เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา และเรียกร้องให้มีการลงมติอย่างเปิดเผยโปร่งใส โดยการเปิดเผยรายชื่อ ขอให้เป็นแบบรายบุคคล ได้แก่ ผู้ที่เข้าร่วมประชุมและผู้ที่ไม่เข้าร่วมประชุม และการลงคะแนนของแต่ละท่าน ยืนยันแค่ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยต่อมติดังกล่าว และขอให้มีการเปิดเผยใน 2 ระดับ คือ 1.เปิดเผยในที่ประชุมด้วยการขานชื่อคนลงคะแนน 2.เปิดเผยผลการลงมติรายบุคคลต่อสาธารณชน นี่คือสิทธิของกรรมการ หากเลือกใช้วิธีนี้ จะทำให้เกิดความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม ตนไม่แน่ใจว่าที่ยื่นหนังสือไปนี้ ที่ประชุมกรรมการแพทย์สภาจะดำเนินการตามนี้หรือไม่ แต่ก็ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ควรจะเป็นความลับ และควรเผยแพร่ต่อสาธารณชนให้ทราบ