สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ว่า กระทรวงการเดินอากาศอินเดียออกแถลงการณ์ เริ่มการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมเที่ยวบินโดยสาร เอไอ171 ของแอร์อินเดีย ซึ่งมีปลายทางคือกรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร ตกหลังเทคออฟเพียงไม่กี่นาที จากท่าอากาศยานนานาชาติอัห์มดาบาด ในรัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดีย คร่าชีวิตผู้อยู่บนเครื่องบิน 241 ราย และผู้ที่อยู่บนพื้นอีกอย่างน้อย 24 ราย เป็นผู้ที่อยู่บริเวณหอพักนักศึกษาแพทย์ ซึ่งเครื่องบินตกใส่


ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐและสหราชอาณาจักร จะร่วมการสืบสวนสอบสวนเช่นกัน เนื่องจากสหราชอาณาจักรมีพลเมืองอยู่บนเที่ยวบินดังกล่าวด้วย ส่วนสหรัฐเป็นประเทศซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินลำที่ประสบเหตุ คือ 787-8 ดรีมไลเนอร์ โดยโบอิ้งจะร่วมมือกับกระบวนการเช่นกัน ด้านโปรตุเกสและแคนาดา ซึ่งมีพลเมืองอยู่บนเที่ยวบินเช่นกัน ยังไม่มีท่าทีอย่างเป็นทางการ


ทั้งนี้ แอร์อินเดียยืนยัน ว่าบนเครื่องบินมีผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน แบ่งเป็นชาวอินเดีย 169 คน ชาวสหราชอาณาจักร 53 คน ชาวโปรตุเกส 7 คน และชาวแคนาดา 1 คน ส่วนลูกเรือทั้งหมดเป็นชาวอินเดีย และเครื่องบินลำที่ประสบเหตุ เป็นเครื่องบินโดยสาร 787-8 ดรีมไลเนอร์ ของบริษัทโบอิ้ง ซึ่งเป็นการตกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเครื่องบินรุ่นดังกล่าว นับตั้งแต่เริ่มมีการให้บริการอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2554


ขณะที่มีรายงานว่า กัปตันประจำเที่ยวบินเอไอ171 มีประสบการณ์บินสูงถึง 8,200 ชั่วโมง และผู้ช่วยนักบินมีประสบการณ์บินสะสม 1,100 ชั่วโมง


อย่างไรก็ดี สำนักงานตำรวจเมืองอัห์มดาบาดยืนยัน การพบผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว จากเที่ยวบินดังกล่าว เป็นผู้โดยสารซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่ง 11เอ ชื่อนายวิศวาส กุมาร ราเมศ สัญชาติสหราชอาณาจักร อายุ 40 ปี อย่างไรก็ตาม พี่ชายของราเมศยังอยู่ในสถานะผู้สูญหาย
ด้านทาทา กรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของแอร์อินเดีย ประกาศมอบเงิน 10 ล้านรูปี (ราว 3.79 ล้านบาท) เพื่อมอบให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และยืนยันจะดูแลผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว จนกว่าจะหายจากอาการบาดเจ็บ และกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ.

เครดิตภาพ : AFP